BITTER SWEET : CHAPTER EIGHT

08:24



“พี่คนนั้น คนที่แข่งรายการเดียวกับนายเขามารอหน้าหออีกแล้วนะ” เด็กหนุ่มตาคมเปิดประตูเข้ามาในห้องที่ปิดไฟมืดมีเพียงแสงไฟจากหน้าจอไอแพดที่ยังส่องสว่างเพื่อรายงานความเคลื่อนไหวให้กับคนที่นอนฟังเพลงบนเตียงรับรู้ โดยที่อีกเตียงหนึ่งซึงกวานนอนหลับอยู่...ฮันโซลเงยหน้าจากไอแพดมองไปทางมินกยูฮยองด้วยรอยยิ้มครู่เดียวก็กลับไปจดจ่อเกมRPGต่อจนคนอายุมากกว่าต้องเดินเข้ามานั่งลงบนเตียงของคนที่เลือกจะเมินเฉยด้วยความเป็นห่วง


“มีปัญหาอะไรกับฮยองเขาหรือเปล่า” อีกครั้งที่คำถามนี้หลุดออกจากปาก...เป็นคำถามที่สมาชิกในวนเวียนถามนับครั้งไม่ถ้วนตั้งแต่เห็นผู้ชายแปลกๆมาดักรออยู่หน้าตึกและหน้าหอพร้อมฝากโกโก้เย็นมาให้ทุกวันเช่นเดียวกับที่มีสายโทรเข้าบริษัทเพื่อคุยกับฮันโซลโดยตรงแต่เจ้าตัวกลับเลือกไม่รับสาย


“ไม่มีนี่ครับ” คำตอบเย็นชาหลุดจากปากเหมือนว่าไม่ใช่เรื่องต้องใส่ใจ


“ปัญหาก็ไม่มี ซาแซงก็ไม่ใช่ แล้วพี่เขาจะมายืนรอนายอยู่ทำไมทุกคืนจนดึกจนดื่น”


“ลองถามดูสิครับ”


“เขาบอกมาหานายไง” มินกยูยื่นมือไปบังจอ “เฮ้ย...คุยกันก่อน อย่าเอาแต่เล่นเกม”


“แป้บนึง...ขอตีบอสตรงนี้ก่อน”


“อา จริงๆเลยนะ พี่เขามารอทุกวัน โทรศัพท์มาหา ฝากโกโก้มาให้เป็นเดือนๆ ถ้ามีเรื่องอะไรกันก็น่าจะออกไปคุยให้จบๆ จะได้ไม่ต้องค้างคาแบบนี้”


“เดี๋ยวเขาเบื่อก็เลิกไปเองแหละ”


“อา แต่ตอนที่พี่เดินกลับจากมินิมาร์ท พี่เขาท่าทางไม่ค่อยดีไอตลอดเลยอ่ะ แล้วคืนนี้อากาศมันก็เย็น...ไปบอกให้กลับก็ไม่กลับ ถ้าเป็นทรุดกลางถนนขึ้นมาจะทำยังไงล่ะ”


“ก็เรียกรถพยาบาลมารับไงครับ”


“ฮา ทำไมอยู่ๆ ฝรั่งน้อยของพวกเราถึงใจร้ายขนาดนี้นะ”


...ใครกันแน่ที่ใจร้าย...


“พี่ไปนอนเถอะครับ เดี๋ยวเขาไม่เห็นผมออกไปก็คงกลับ” คนเป็นน้องแกล้งทำไม่สนใจจนคนเป็นพี่ล่าถอยออกไปจากห้องนั้นแหละถึงกดเซฟออกจากเกมเข้าอินสตราแกรมและทวิตเตอร์ออฟฟิเชียลของวงเข้าไปดูแท็กชื่อและความเคลื่อนไหวของคนที่รออยู่ข้างนอก


กล่องข้อความในอินสตราแกรมขึ้นแจ้งเตือนทำให้เขากดเข้าไปดูเป็นอีกครั้งที่พี่ฮยอนชอลส่งข้อความและภาพมาหา แต่ครั้งนี้มี PS.ต่อท้ายที่ทำให้เขาสะดุดจนต้องอ่านซ้ำ


...บยอลมันเที่ยวขอคาทกเอ็งไปทั่วเลยนะ แต่ยังไม่มาขอพี่ คงรู้มั่งว่าพี่ก็ไม่มี... 


ฮันโซลเม้มริมฝีปากหยิบไอแพดแล้วเดินออกไปตรงหน้าต่างบานใหญ่ในห้องครัวพลางชะโงกมองไปยังชั้นล่างที่มีคนอยู่กอดอกพิงเสาไฟอย่างเดี่ยวดาย มีหลายครั้งที่ไอจนตัวสั่นแต่ก็ยังไม่ยอมไปไหน


ความเป็นห่วงนั้นมีอยู่แต่ความรู้สึกน้อยใจมีมากกว่า 


ใช่ เขาเป็นคนดื้อและเป็นคนที่อยากจะแกล้ง แต่พี่เองไม่ใช่เหรอที่ไม่จริงจังเลยสักเรื่อง แค่วันนั้นพูดออกมาว่า อยากคุยกับเขา หรือแค่บอกแซมว่าเป็นคนขอคาทกเพราะอยากคุยด้วย แค่นี้เขาก็คงไม่ต้องมาหย่อนข้อความทิ้งไว้ใน DM อินสตราแกรม


แต่ถึงจะหย่อนไว้ก็ไม่มีความหมายอะไรหรอก เพราะทุกครั้งที่เข้าไปในแท็กชื่อพี่เขาก็จะมีแต่คนแคปรูปหัวใจที่พี่ให้ไว้กับผู้หญิงที่ส่ง DM ไปหา นั่นก็แปลว่าไม่ได้สนใจกันจริงๆอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ...


ทำไมยังถึงมารอหน้าตึก ทำไมยังมารอหน้าหอ ทำไมยังพยายามโทรมาหาที่บริษัท ทำไมยังเที่ยวขอคาทกเขากับคนอื่น...พี่เขาต้องการอะไรล่ะ คาดหวังอะไรกับสิ่งที่ทำอยู่ทุกวัน ทั้งที่เล่นไอจีแต่ไม่เคยเปิดดูข้อความจากเขา อยากจะเล่นเกมเหรอ เชิญเล่นไปคนเดียวเลย


แม้จะคิดแบบนั้นแต่พอเห็นอีกฝ่ายไอจัดจนทรุดลงไปนั่งกับพื้นก็ใจหายวาบ วิ่งไปหยิบยาอมมะนาวทั้งห่อแล้วออกมาหันรีหันขวางเปิดตู้หยิบยาแก้ไอกับขวดน้ำออกมาแต่พอถึงหน้าประตูก็ชะงักเดินกลับมา


...จะใจดีกับคนที่ใจร้ายด้วยทำไม...


บยอลเหยียดตัวลุกจากพื้น หลังจากไอไม่หยุดอยู่หลายนาทีก่อนจะโยนลูกอมมะนาวที่ซื้อจากมินิมาร์ทเข้าปากแล้วแหงนหน้ามองไปยังชั้นสามของหอพัก ไม่ได้คาดหวังว่าจะพบใครยืนอยู่หรอกแต่ครั้งนี้กลับเห็นเด็กคนนั้นยืนอยู่ตรงหน้าต่าง


ฮันโซลไม่รับโทรศัพท์จากเขา ไม่ยอมออกมาหา แม้แต่รับโกโก้ก็เอามาคืนเสียทุกครั้ง ใช่ มันเจ็บปวดไม่น้อยเลยที่ถูกเมินเฉย เขาบอกตัวเองหลายหนให้ถอดใจและลืมมันไปเสียเถอะแต่ใจก็ไม่ยอมทำตาม


ชายหนุ่มหลุดไอออกมาอีก หากไม่ยอมละสายตาจากบานหน้าต่างจากระยะนี้ถึงจะไกลกันแต่เขารู้สึกได้ถึงความเศร้าของอีกฝ่าย มันเศร้าเสียจนหัวใจเจ็บและเท้าก็ก้าวไปไหนไม่ได้


มือใหญ่ยกขึ้นโบกทักทายแต่เด็กคนนั้นผละจากหน้าต่างหายไปแล้ว บยอลถอนหายใจเฮือกใหญ่พลางไออีกครั้งก่อนจะหันไปเห็นว่ามีบางคนเดินออกจากหอตรงมาหา


ผู้หญิง...ไม่สิ...พอดูใกล้ๆแล้วคนผมยาวสลวยที่มัดไว้ข้างหลังหลวมๆสวมเสื้อยืดสีชมพูตัวโคร่งกับกางเกงขาสั้นแค่มีใบหน้าสวยหวานแต่ความจริงเป็นผู้ชายเดินมาหยุดตรงหน้าเขาก่อนจะยื่นถุงกระดาษส่งให้


“มีคนฝากมาให้ครับ”


“แค่ก แค่ก...เขาฝากมาเหรอ” คนหน้าดุรับของมาถาม


“อืม เขาฝากให้บอกพี่ด้วยว่า กลับไปเถอะ ยังไงเขาก็ไม่ออกมาหรอก”


“อา”


“ไปก่อนนะครับ”ฝ่ายที่เอาของมาให้เอ่ยพลางโค้งให้แต่อีกคนยังรั้งเอาไว้ด้วยการหยิบของที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อคลุมด้านในส่งให้...ซีดีผลงานที่เขาเก็บไว้ในรถแต่เอาออกมาเพื่อใช้แทนคำขอโทษเล็กน้อยที่พอจะให้ได้


“ฝากของไปให้เขาได้ไหม”


จองฮันรับซีดีที่มีภาพปกเป็นรูปของอีกฝ่าย...คลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อนจนกระทั่งนึกออกรอยยิ้มก็ปรากฏบางตรงมุมปาก


“เขามีแล้ว”


“ห๊ะ”


“ซีดีของพี่แผ่นนี้น่ะ ฝรั่งน้อยของเรามีอยู่แล้วนะ”


“ฝรั่งน้อย” อีกคนทวนชื่อพลางเลิกคิ้ว


“ถ้าการที่ฮยองมายืนรอแบบนี้ทุกวันไม่ใช่การเล่นเกมแล้วล่ะก็ ช่วยทำอะไรให้มันชัดเจนสักหน่อยสิครับ...สนใจให้มากกว่านี้ ซื่อตรงกับความรู้สึกของตัวเองบ้าง อยากคุยก็บอกตรงๆ มัวแต่ปิดบังความรู้สึกแล้วไปขอนั่นนี่จากคนอื่นมันไม่เวิร์คหรอก”


ชายหนุ่มฟังคำเหยียดยาวที่ตีตรงประเด็นแบบไม่อ้อมค้อมจากคนหน้าสวยแล้วกระพริบตาปริบ


“ผมไม่ได้พูดเองหรอก เขาฝากผมมาบอก...ผมไปก่อนนะครับ” คนอ่อนกว่าว่าพร้อมโค้งให้จากนั้นก็หมุนตัวเดินกลับไปทางหอก่อนจะหันกลับมามองทางคนโตกว่าที่ตะโกนฝากคำ


“ขอบคุณนะ ฝากบอกเขาด้วยว่า อย่าทิ้งซีดีนะ อย่างน้อยเปิดดูข้างในสักนิดก็ยังดี”


จองฮันส่งยิ้มให้แล้วหายเข้าไปในหอเดินถือซีดีขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นที่ตัวเองอาศัยอยู่กับเหล่าสมาชิก ถอดรองเท้าเดินเข้าไปตรงโถงของห้องที่มีบางคนนั่งรออยู่บนพื้น


“เขาฝากมาให้แน่ะ” พอหย่อนซีดีไปบนตักของอีกคนได้ก็มีคำขอบคุณหลุดจากปาก...คนเป็นพี่ยิ้มแล้วเดินกลับเข้าห้องนอนของตัวเอง


ฮันโซลหยิบซีดีที่ตัวเองก็มีอยู่ในห้องขึ้นมาพลิกไปมาก่อนจะเปิดดูด้านในก็เห็นกระดาษโน้ตใบหนึ่งแปะอยู่..เนื้อหาใจความที่เขียนมาด้วยลายมือหวัดๆแม้อ่านยากและไม่เป็นระเบียบนักแต่เรียกรอยยิ้มให้ผุดขึ้นมาบนหน้า

010-XXXX-YYYY อันนี้เบอร์พี่
Andupindahouse >> อันนี้ IG กับ คาทก
andup93@naver.com >>> อันนี้อีเมล์
facebook.com/hanbyeolandup >>> อันนี้เฟสบุ๊กส่วนตัว

ขอโทษด้วยนะที่พูดจากับนายไม่ดี 
ขอโทษที่ทำให้นายโดนด่าเยอะแยะเลย
ขอโทษที่ขอคาทกแล้วพูดแบบนั้น 
พี่อายที่จะบอกว่า อยากคุยกับนายอ่ะ
แต่การเที่ยวไปขอคาทกนายจากคนอื่นมันน่าอายและขี้ขลาดกว่าอีก
ยังไงก็ตามพี่อยากคุยกับนายจริงๆนะ...เด็กน้อย
ถึงนายไม่ยอมให้คาทกพี่ก็ไม่เป็นไรหรอก
แต่พี่จะรอวันที่นายแอดมาคุยกับพี่นะ
แต่อย่าส่งอะไรมาใน IG พี่นะ พวก DM น่ะมันมีคนส่งมาเยอะมาก
เลยได้แต่ดูแล้วกดไลค์ผ่านๆ ถ้านายส่งมาพี่อาจไม่เห็น
PS.อาทิตย์หน้าพี่จะไปแคมปิ้งอาจไม่ได้มารอนะ
แต่พี่สั่งโกโก้ที่ร้านแถวตึกนายไว้แล้ว จะให้เขาไปส่งจนกว่าพี่จะกลับนะ
  
เด็กหนุ่มหลุดหัวเราะออกมาด้วยความรู้สึกเหมือนก้อนหินที่วางอยู่บนไหล่เป็นเดือนสลายไปแทบในทันทีที่อ่านข้อความเหล่านั้นจบ


...ไม่เลย...ที่ผ่านมามันไม่ใช่การเล่นเกมแต่เป็นความซื่อบื้อของผู้ชายกระด้างน่าแกล้งคนนั้นเอง


...พี่เขาเป็นคนตลกอย่างที่คิดจริงๆด้วย...


...เอาไว้ผ่านไปสักเดือนถ้ายังหาคาทกของเขาไม่เจอจริงๆ แล้วจะแอดไปแทนล่ะกัน...


เขาบอกกับตัวเองหยิบซีดีบนตักเดินหายเข้าไปในห้องครัว มองผ่านหน้าต่างไปยังคนข้างล่างที่เปิดดูของในถุงกระดาษอยู่ข้างล่าง


บยอลยกมือปิดปากที่กำลังไอแต่ยังไม่ไปไหน มือเปิดดูข้าวของในถุงกระดาษที่มีน้ำเปล่ากับยาแก้ไอทั้งแบบเม็ดและแบบน้ำรวมทั้งลูกอมมะนาวที่เขาแสนเกลียดและโน้ตแผ่นเล็กๆ อยู่ข้างใน


...ผมไม่ใช่หมอถึงเห็นหน้าก็ไม่หายไอหรอก เอายาไปกินแทนเถอะ...


เสียงหัวเราะหลุดจากปากแทบทันทีก่อนที่อาการไอจะเข้าเล่นงานเลยกลายเป็นอาการทั้งขำทั้งไอ เขาแหงนหน้ามองไปยังหน้าต่างบนหอพักชั้นสามนั้นก็ได้เห็นเด็กคนนั้นยืนมองเขาอยู่ หากคราวนี้ไม่มีความเศร้าใดให้สัมผัสถึงและมือขาวข้างหนึ่งก็ยกขึ้นมาปัดไปมาเป็นเชิงไล่ให้กลับไปได้แล้ว


“เด็กบ้า” เขาว่าพลางยิ้มกว้างยกมือโบกให้กับคนที่ยืนตรงหน้าต่าง หยิบลูกอมมะนาวมาแกะเปลือกยัดใส่ปากให้ความฝาดเย็นช่วยให้ชุ่มคอแล้วหันหลังเดินออกไปหน้าปากซอยของหอ ริมฝีปากยังไม่อาจหยุดเหยียดกว้างแม้ว่าจะขึ้นรถขับออกมาไกลจากหอในกังนัมแห่งนั้นแล้วก็ตาม


นิ้วเรียวกดเปิดเพลงฟังในรถเหมือนทุกครั้ง ตอนแรกตั้งใจว่าจะเปลี่ยนไปฟังฮิปฮอปแต่พอได้ยินทำนอบวกกัยเป็นผลงานกับวงที่เคยทำงานร่วมกันก็เลยหยุดฟัง


ฉันไม่เคยสนว่าเธอจะอยู่หรือไม่อยู่ที่่นี่เลยด้วยซ้ำ
แต่ในตอนนี้กลับมีเธออยู่เต็มหัวไปหมด
นี่มันหมายความว่ายังไงนะ
เธอเข้ามาอยู่ในหัวใจของฉันตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
เหมือนกับจุดเล็กๆที่มันจะมีเมื่อไหร่ก็ได้โดยที่ฉันไม่ทันคิด
เธอทำได้ยังไงกันนะ ฉันถึงลบมันออกไปไม่ได้
เธอก็เหมือนมุกตลกที่คอยกวนใจฉันอยู่ตลอด


เนื้อหาที่น่ารักของเพลงนั้นทำให้เขาเผลอยิ้มออกมาและยิ่งยิ้มกว้างเข้าไปอีกเมื่อปรายตาไปเห็นถุงกระดาษที่วางอยู่ตรงที่นั่งข้างคนขับ



...เป็นครั้งแรกในรอบหนึ่งเดือนที่หัวใจเขาเต็มตื้นขนาดนี้...


You Might Also Like

0 Comments