LOVE TOXICAL : KANPAGNE CHAPTER 4

23:11


แสงสว่างจากหน้าจอใหญ่ของคอมพิวเตอร์มีภาพสเก็ตของสุนัขสีดำตัวใหญ่ปรากฏสาดกระทบคนที่นอนฟุบอยู่บนโต๊ะทั้งที่มือยังจับปากกาเม้าท์ค้างอยู่ในความมืด กระทั่งได้ยินเสียงดังโครมครามตรงประตูบ้านก็สะดุ้งลืมตาตื่นขึ้นมาทันที


เจ้าของบ้านย่นหน้าผากชะเง้อคอมองผ่านหน้าต่างออกไปตรงประตูบ้านในความมืดด้านนอกแทบไม่เห็นอะไรเลยสักอย่าง ก่อนที่เสียงเหมือนบางสิ่งล้มกระแทกกลางบ้านจะดังขึ้นอีกครั้งและคราวนี้คนที่อยู่ในห้องนอนหยิบโทรศัพท์มือถือใส่กระเป๋าเสื้อเดินออกไปดูลาดเลา


เสียงกุกกักดังอยู่ในห้องนั่งเล่นระคนมากับเสียงไอ นิ้วเรียวกดเบอร์โทรศัพท์หาเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมไว้กลั้นใจกดเปิดสวิตซ์ไฟ พลันเมื่อทั้งห้องสว่างร่างใหญ่ในชุดดำที่เขาคุ้นเคยนอนพิงโซฟาอยู่พื้น แขนข้างที่มีผ้าพันอาบด้วยน้ำสีแดงสด


คนตัวเล็กเบิกตาแทบกระโจนเข้าไปหาอีกคนด้วยความตกใจ มือเล็กสัมผัสข้างแก้มสีน้ำผึ้งของคนที่นอนหลับตานิ่งๆ เพียงความอุ่นต้องกับความเย็นก็ทำให้อีกคนเผยอเปลือกตาขึ้นมอง


คุณต้องเปลี่ยนล็อกประตูนะ...พังง่ายเหลือเกินถ้อยคำอ่อนเบามีกลิ่นแอลกอฮอล์คล้ายเพ้อบอก


เกิด...เกิดอะไรขึ้นอีกคนเอ่ยถามปากคอสั่นมองหน้าที่เซียวซีดลงสลับกับแขนข้างที่มีเลือดซึมอย่างตระหนก


มีเรื่องน่ะ ทำแผลให้ผมหน่อยได้ไหม พอถูกขอเจ้าของบ้านก็ลุกขึ้นวิ่งไปหยิบอุปกรณ์ทำแผลจากในครัวมาวางบนพื้น แตะแขนอีกคนที่มีเลือดกระจายเป็นวงทั่วผ้าที่พันไว้ ความเป็นห่วงทำให้มือที่แกะผ้านั้นสั่นกว่าจะได้เห็นรอยกรีดเป็นทาง


แผลใหญ่ขนาดนี้เรียกรถพยาบาลดีกว่าไหม


แผลไม่ลึก...แค่คุณทำแผลให้ผมก็พอ


ถ้าไม่เย็บจะไม่เป็นไรเหรอ ติดเชื้อขึ้นมาจะทำยังไง ติดเชื้อในกระแสเลือดถึงตายเลยนะ


มีทิงเจอร์หรือแอลกอฮอลล้างแผลไหม ถ้ามี ก็ราดมันไปเลย


ทำอย่างนั้นก็เจ็บแย่สิ ไม่เอา


ไม่เจ็บหรอก...ผมไม่เคยเจ็บ


บ้าเหรอ มีใครเอายาล้างแผลราดแผลสดไม่เจ็บบ้าง


มี...ผมนี่ไง


จะเอาแบบนั้นจริงๆเหรอ มันเจ็บนะ มือนุ่มหยิบขวดแอลกอฮอล์ล้างแผลสีฟ้าขวดใหญ่ไว้ในมือแต่ไม่กล้าเปิดฝา คนตัวใหญ่เลยหยิบมันมาเปิดฝาเทราดลงไปจนหมดขวด น้ำเลือดผสมแอลกอฮอล์ไหลชุ่มทั้งแขนลามไปถึงเสื้อไหลลงมานองพื้นเลยต้องถอดเสื้อที่ขาดอยู่แล้วออกมาซับน้ำไว้ไม่ให้ไหลเป็นวงกว้าง


ซึงฮวังมองแผงอกสีน้ำผึ้งที่มีมัดกล้ามแข็งแรงจากการออกกำลังกายสม่ำเสมอซึ่งชื้นไปด้วยเหงื่อผสมเลือดและแอลกอฮอล์ซึ่งมีรอยแผลเป็นพาดอยู่ทั่ว ยามที่อีกคนขยับเอี้ยวตัวใช้ผ้าซับน้ำที่เจิ่งอยู่เผยให้เห็นแผ่นหลังกว้างมีรอยเป็นคล้ายถูกมีดกรีดยาวจากไหล่ข้างซ้ายไปสุดที่เอวข้างขวา


...บาดแผลพวกนี้มาจากไหน...


พันแผลให้ผมหน่อย คนตัวใหญ่บอกเอนศีรษะพิงกับโซฟาปรายมองอีกคนที่ไม่พูดอะไรแค่จับแขนอีกคนอย่างระวังแล้วพันผ้าทับบนรอยแผลด้วยแววตาหม่นเศร้า


เจ็บไหมริมฝีปากมีสีเจือตามธรรมชาติขยับถาม มือที่พันผ้ายังคงสั่นอยู่ตลอด


ไม่


แล้วบนตัว


หื้อคนตัวใหญ่ทอดเสียง


แผลบนตัวคุณ...เจ็บไหม


พวกนี้น่ะเหรอ ไม่หรอก


จริงเหรอ


จริง


ไม่เจ็บสักนิดเลยเหรอ


อืม


แต่ดูท่าจะเจ็บมาก


ตอนโดนใหม่ๆผมยังไม่เจ็บเลย ตอนนี้มันแห้งจนเป็นแผลเป็นแล้วจะเจ็บได้ไงเสียงเข้มตอบ ดวงตาคมตวัดไปยังคนที่นั่งตัวสั่นก็ยกยิ้มมุมปาก กลัวเหรอ


เปล่า


ถ้ากลัวก็บอกมาเถอะ ใครเห็นแผลบนตัวผมก็กลัวทั้งนั้น จำได้ไหม ตอนเราเจอกันครั้งแรก ผมบอกคุณแล้วนะว่าผมเป็นคนร... เขาชะงักเงียบทันทีที่มือนุ่มอุ่นละจากแขนมาจับมือหยาบเอาไว้แน่น


ผมไม่ได้กลัวนะ


แล้วยังไง...หรืออยากรู้ว่าผมได้แผลมายังไง


ไม่


นี่ ปกติผมไม่เล่าเรื่องแผลให้ใครฟังหรอกนะแต่ถ้าคุณถามผมตอนนี้ ผมยินดีจะเล่าให้ฟังนะ


ผมไม่อยากรู้


ทำไมล่ะ...หรือกลัวรับไม่ได้


ไม่ใช่ มันไม่ใช่แบบนั้นคำปฏิเสธนั้นอ่อนเบาแต่จริงจัง คนเราไม่ว่ายังไงถ้ามีแผลก็ต้องเจ็บ ทำไมผมต้องอยากฟังเรื่องที่ทำให้คุณต้องเจ็บ ทำไมต้องอยากให้คุณย้อนไปคิดถึงความเจ็บของตัวเองด้วยล่ะ


อา อย่างนี้เองเหรอเขาเอ่ยริมฝีปากเหยียดออกเป็นรอยยิ้มก่อนเป็นฝ่ายพลิกมือนุ่มมากุมไว้พลางบีบเบาๆ ใจดีจังนะ


ไม่หรอก...ผมไม่ใช่คนใจดี


ใจดีสิ จริงๆนะ ตอนแรกที่ผมเห็นคุณ ผมคิดว่าผมเห็นนางฟ้า คุณเหมือนมีแสงสว่างอยู่รอบๆ มันทำให้คนที่อยู่ใกล้คุณรู้สึกอุ่น อุ่นมาก คนตัวใหญ่ว่ายังจับมืออีกคนไว้แน่น ฤทธิ์แอลกอฮอล์ผสมความเหนื่อยและการเสียเลือดทำให้เปลือกตาหนักอึ้งเกินจะต้านต้องยอมให้มันพับปิดลงมา


...เขาไม่ใช่คนประเภทที่เวลาเจ็บจะยอมให้ใครเห็น แต่เขาวางใจคนๆนี้...


นี่เพ้อแล้วใช่ไหม ถ้าเสียเลือดจนเพ้อจะตามรถพยาบาลนะ


เปล่าพูดออกมาอย่างอ่อนล้า คืนนี้ผมนอนที่นี่ได้ไหม


จะบ้าเหรอ ถึงไม่ขอผมก็ไม่ให้คุณกลับบ้านไปทั้งสภาพอย่างนี้หรอก


เห็นไหม...คุณใจดีเขาว่าแล้วหยุดหายใจจึงต่อ เลือดผมหยุดหรือยัง


เหมือนว่าจะหยุดแล้ว...คุณลุกไหวไหม ไปนอนในห้องดีกว่า ตรงนี้พื้นมันเย็นนอนไม่สบายหรอก เดี๋ยวผมพยุงคุณไป


ไม่ต้องหรอก ผมยังเดินไหวคนตัวใหญ่บอกค่อยๆใช้แขนข้างที่ไม่เจ็บพยุงตัวเองลุกจากพื้น โดยมีคนตัวเล็กยืนมองเตรียมจะเข้าไปประคองและคอยตามหลังอีกคนที่เดินโซเซไปยังห้องที่เขาจำได้ว่าเคยนอนมาก่อน


ผมนอนพื้นนะ


นอนพื้นทำไม นอนเตียงไปสิ


ผ้าปูที่นอนคุณมันขาว เดี๋ยวเปื้อนเลือดจะซักไม่ออก


ซักไม่ออกก็เอาไปทำอย่างอื่นได้...คุณเจ็บอยู่นอนบนเตียงนั้นแหละ ยืนทำไมอีก นอนลงไปเลยนะ ครั้งนี้คนที่ไม่เคยขึ้นเสียงให้ได้ยินมาก่อนเริ่มดุแต่เป็นการดุที่เหมือนงอนมากกว่าจะทำให้คนกลัวแต่คนถูกดุก็นอนบนเตียงนุ่มตามสั่ง


นอนไปก่อน เดี๋ยวผมเอายาแก้ปวดมาให้กิน


เจ้าของบ้านวิ่งไปที่ครัวหยิบอ่างพลาสติกใบเล็กออกมาจากตู้เหนือเคาน์เตอร์ครัว กดน้ำผสมน้ำร้อนในกาไฟฟ้าและหยิบผ้าสะอาดโยนลงไป จากนั้นจึงหยิบแผงยาแก้ปวดแก้ไขในตู้ยากับน้ำเปล่าขวดเล็กในตู้เย็นกลับเข้าไปในห้องใหม่


นี่...ยา กินด้วย


คนตัวใหญ่รับยาจากมืออีกฝ่ายมากินกระดกน้ำดื่มตามอย่างว่าง่ายก่อนล้มตัวลงนอนมองอ่างใส่น้ำที่ถูกนำมาวางบนโต๊ะข้างเตียง


ผมจะเช็ดตัวให้...คุณจะได้นอนสบายขึ้น


มือเล็กบิดผ้าสะอาดที่แช่อยู่ในอ่างน้ำอุ่นค่อยๆซับไปบนใบหน้าคมสีน้ำผึ้งนั้นอย่างเบามือ แล้วจุ่มผ้าลงกับน้ำอุ่นสลับกับเช็ดไปตามร่างกายท่อนบนที่ไร้อาภรณ์นั้น


ต้องเช็ดข้างล่างไหม จะได้ถอดให้คนเจ็บแหย่พลางหัวเราะเบาๆ


ผมไม่ตลกนะ


อา...ดุแล้ว


ไม่ได้ดุสักหน่อย


อืม


ความเหนื่อยถาโถมเข้าใส่ ทว่ากวังรยอลยังปรือตามองดวงหน้านวลละมุนที่มีความกังวลแทบไม่กระพริบ สูดกลิ่นหอมจากปลายมือเรียวที่เช็ดตัวให้เขาอย่างเบามือราวกับกลัวเขาเจ็บพร้อมกับริมฝีปากที่แย้มทีละน้อย กระทั่งคนตรงหน้าทำท่าจะลุกไปมือใหญ่ก็เอื้อมไปคว้ามืออีกคนไว้


จะไปไหน


ผมจะเอาน้ำในอ่างไปเท


จะกลับมาไหม


ไม่แล้วล่ะ คุณจะได้นอนสักที


อย่าไปเลย ถ้อยคำของคนเจ็บมีแววอ้อน นัยน์ตาสีนิลคมกริบทั้งคู่ที่ทอดมาหาดวงตากลมสวยเหมือนลูกกวางน้อยมีเว้าวอนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนและมือหยาบยิ่งกระชับมือนุ่มไว้ในอุ้งมือราวกับเกรงหากปล่อยมือคนตรงหน้าอาจลอยหายไป


ซึงฮวังแลคนเจ็บที่นอนบนเตียงด้วยสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่นด้วยรอยยิ้มกว้างอบอุ่น มือข้างที่ว่างวางลงข้างแก้มสีเข้มที่ตัดกับผิวของตัวเองลูบเบาๆ


ผมไม่ได้ไปไหนไกลสักหน่อย


รู้มือใหญ่กุมมือนุ่มบนแก้มเอาไว้ แต่อยู่กับผมเถอะ


นี่ คุณรู้ไหมว่า เวลาคุณทำแบบนี้ทำให้ผมคิดถึงอะไร


อะไร


น้องหมาน่ะ...น้องหมาเวลาไม่สบายอ้อนเจ้าของ


ผมเป็นหมาก็ได้ ถ้ามันทำให้คุณอยู่


ขนาดนั้นเลยเหรอ


อืม


เอาอย่างนี้นะ...ผมจะอยู่นี่จนกว่าคุณจะหลับ ตกลงไหม


ก็ได้ คำตอบรับของคนเจ็บเบาโหวง เปลือกตาปิดสนิทลงแทบในทันทียังคงจับมือนุ่มเอาไว้ คนตัวเล็กสูดลมหายใจนั่งบนขอบเตียงพลางลูบผมอีกคนไปมาเบาๆราวจะกล่อม ปล่อยเวลาให้ผ่านไปช้าๆ จนคนตัวใหญ่พลิกกายนอนตะแคงหันหลังที่มีรอยแผลเป็นมาตรงหน้า...หัวใจกลับรู้สึกทั้งโกรธทั้งเจ็บขึ้นมา


...คนพวกนั้นทำอะไรกับคุณ คนใจร้ายพวกนั้นทำร้ายคุณ...


เจ้าของบ้านตั้งคำถามแล้วรอกระทั่งแน่ใจว่าอีกคนหลับเลยค่อยๆดึงมือที่ถูกกุมไว้ออกพร้อมลุกจากเตียงปิดไฟจะกลับไปนอนที่ห้องตัวเองแต่เพราะเสียงครางเรียกหาขาดเป็นห้วงเหมือนจะขาดใจทำให้ต้องหันกลับมาหาพลางถอนหายใจก่อนตัดสินใจล้มตัวลงบนเตียงสัมผัสรอยแผลเป็นบนหลังราวกับอยากให้มันลบหายได้แล้วสอดแขนทั้งสองข้างกอดเอวสอบแข็งแรงไว้จากข้างหลัง


หมาน้อย...ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร ประโยคบางเบากล่อมทำให้คนที่เรียกหาเงียบเสียงก่อนที่ความเพลียจะเข้าเล่นงานให้คนตัวเล็กเผลอหลับก่อนที่มือใหญ่ของคนเจ็บจะป่ายมาจับบนมือเล็กที่กอดเอวตัวเองไว้ราวกับไม่อยากให้ช่วงเวลานี้หมดไป



You Might Also Like

0 Comments