LOVE TOXICAL : WONSAM CHAPTER 4

22:29


รองเท้าผ้าใบสำหรับใส่เล่นบาสถูกถอดวางบนชั้นวางรองเท้าที่อยู่ติดกับผนังข้างประตูถูกวางสลับกับรองเท้าใส่ในบ้านก่อนที่ร่างเล็กจะหอบหิ้วข้าวของที่ใส่อยู่ในถุงพลาสติกกลับเข้ามาในห้องชุดกว้าง เสียงโทรทัศน์ที่เปิดทิ้งไว้ทำให้คนอาศัยเดินเข้าไปในส่วนนั่งเล่นตั้งใจว่าจะปิดโทรทัศน์ช่วยประหยัดเลยได้เห็นร่างเจ้าของห้องสวมเสื้อยืดสีดำกับกางเกงขาสั้นนอนคุดคู้อยู่บนโซฟา


ใบหน้าละมุนยามหลับคล้ายจะผ่อนคลายแต่อาการนอนกัดฟันและกระสับกระส่ายเหมือนฝันร้ายอยู่ตลอดเวลา ไหนจะเหงื่อที่ผุดทั่วหน้านั้นทำให้คนที่มองอยู่ถอนหายใจหิ้วนมกับเยลลี่ที่ซื้อมาเก็บเข้าตู้แล้วหยิบผ้าสะอาดที่เขาซักพับใส่ตะกร้าใบเล็กบนชั้นวางของในครัวเดินกลับมาเช็ดเหงื่อขณะอังหลังมือไปที่คอสัมผัสความร้อนผ่าวคล้ายเป็นไข้เลยต้องกลับไปหยิบเจลลดไข้ในช่องฟรีซมาแกะแปะให้บนหน้าผาก


...ทั้งที่ไม่อยากใส่ใจแต่จะให้ละเลยเหมือนไม่เห็นก็ทำไม่ลงอีก...


เด็กชายสะบัดผ้าห่มที่พับไว้เมื่อเช้าห่มให้คนที่นอนอยู่ จากนั้นจึงเริ่มทำความสะอาดจานชามที่กองอยู่ในอ่าง เก็บผ้าที่ปั่นไว้ในเครื่องซักผ้าก่อนออกไปเล่นบาสใส่ตะกร้าไปตากไว้บนราวไม้ที่เฉลียงก่อนจะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อยืดตัวโคร่งสวมทับด้วยเสื้อคลุมสีเทาสกรีนลายบาร์ต...ตัวการ์ตูนจากเรื่องซิมสันป์ด้านหลังกับกางเกงขาสั้นสีดำออกมานั่งพื้นพิงหลังกับโซฟาดูการ์ตูนเรื่องเดียวกับที่อยู่บนเสื้อในโทรทัศน์


กลิ่นหอมเย็นโชยแตะจมูกทำให้คนที่หลับอยู่ขยับเปลือกตาขึ้นช้าๆแล้วหรี่ตาคล้ายยังไม่ตื่นดีโดยภาพแรกที่ปรากฏตรงหน้าคือใบหน้ากวนประสาทสีเหลืองของตัวการ์ตูนบนหลังเสื้อ


เจ้าของห้องไล้สายตาจากเสื้อไปยังเรือนผมสีน้ำตาลเข้มสลวย ความรู้สึกครึ่งหลับครึ่งตื่นทำให้ลืมตัวเอื้อมมือสอดปลายนิ้วเรียวเข้าไปสัมผัสเรือนผมนุ่มนั้นทำให้คนตัวเล็กสะดุ้งหันควับกลับมามองจนอีกคนเองก็รู้สึกตัวว่าไม่ได้ฝันเลยชักมือกลับ


ขอโทษคำนั้นหลุดจากปากไปอัตโนมัติ พี่นึกว่าฝัน


ครับ ไม่เป็นไร


กลับมาตอนไหนเหรอ


ก็พักหนึ่งแล้วล่ะครับ


กลับมืดจัง...ปกติเล่นบาสเสร็จก็กลับมืดแบบนี้เหรอ


สามทุ่มไม่เรียกว่ามืดนะครับ


สำหรับเด็กมันก็มืดแล้ว


เป็นห่วงเหรอครับ เสียงแหบที่ยังไม่แตกดีถามทั้งที่นั่งหันหลัง ผมไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงหรอก...พี่ห่วงตัวเองเถอะครับ ออกมานอนตากแอร์ข้างนอกเดี๋ยวก็เป็นไข้


อาเขาส่งเสียงในคอเพิ่งรู้สึกถึงความเย็นบนหน้าผากพอยกมือไปแตะก็เจอเจลลดไข้แปะอยู่เลยดึงออกมา


ทำไมไม่เข้าไปนอนในห้องล่ะครับ


ไม่ได้ตั้งใจหรอก พอดีกินข้าวกินยาแล้วเผลอหลับ


อ้ออีกคนส่งเสียงเท่านั้นก็เงียบ


ทั้งที่ในห้องกลับมาเงียบแต่แปลกที่การอยู่กับเด็กคนนั้นกลับทำให้เจ้าของห้องไม่รู้สึกอึดอัดและเริ่มปริปากถามทำลายความเงียบบ้าง


ดูอะไรอยู่เหรอ...อ๋อ ซิมป์สัน ชอบเหรอ


เปล่าครับ


แล้วดูทำไม...มันไม่ใช่การ์ตูนสำหรับเด็กสักหน่อย


ไม่ใช่แล้วเด็กดูไม่ได้เหรอครับ


มุกเสียดสีสังคมแบบผู้ใหญ่มันตลกสำหรับนายเหรอ


ผมไม่ได้ดูเพราะตลก ผมดูเพราะผมอยากรู้ว่าผู้ใหญ่ตลกกันซับซ้อนแค่ไหน


คนโตกว่าย่นหน้าผากให้กับคำตอบสุดประหลาดที่ออกจากปากของอีกคน...เป็นเด็กที่แปลกจริงๆ...


นายรู้ตัวหรือเปล่าว่าชอบพูดอะไรแปลกๆ


แปลกยังไงครับ


พูดเรื่องเกี่ยวกับใจคนนะ...โตไปอยากเป็นนักจิตวิทยาอะไรแบบนั้นหรือเปล่า


ไม่ครับ


แล้วอยากเป็นอะไร


อะไรก็ได้ที่ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับคน...คิดว่าคงเรียนนิติวิทยาศาสตร์ วันๆอยู่กับการผ่าพิสูจน์หลักฐานจากศพอะไรแบบนั้น


มีใครที่ไหนเขาอยากอยู่กับศพบ้าง...ไม่กลัวผีเหรอ


ผีไม่มีในโลกครับ


รู้ได้ไงว่าไม่มี ยังพิสูจน์ไม่ได้เลยนะ


พี่คงกลัวผีสินะ


เฮ้ย ไม่ได้กลัว


มีแต่คนกลัวผีเท่านั้นแหละที่พูดเรื่องผีขึ้นมา


ไปอ่านมาจากไหน


จากน้ำเสียงของพี่


เสียงพี่มันฟังดูกลัวตรงไหนคราวนี้คนพูดดัดเสียงเข้มพอเห็นอีกฝ่ายยังนิ่งก็ดัดเสียงให้ต่ำลงแล้วพูดซ้ำไปซ้ำมาอยู่แบบนั้น


ซามูเอลนั่งฟังคนเป็นพี่ที่พยายามอย่างหนักในการออกเสียงเพื่อให้เขาพูดว่าไม่กลัวอยู่พักหนึ่ง ริมฝีปากบนใบหน้าเรียบเฉยเริ่มขยับแย้มทีละน้อย


ยิ่งดัดเสียงแบบนั่นนั้นแหละแปลว่ากลัว คนตัวเล็กหันไปหาคนที่นอนตะแคงข้างอยู่บนโซฟาในระยะที่ใบหน้าห่างกันไม่ถึงห้าเซนติเมตรด้วยรอยยิ้มกว้างและดวงตาที่พร่างพราวสดใส ทำให้ชายหนุ่มเหยียดยิ้มกว้างตอบอย่างอดไม่ได้


นายน่ารักแฮะ


เพียงประโยคนั้นเอ่ยผ่านปากคนเป็นเด็กก็เหมือนจะรู้สึกตัวหุบยิ้มเบือนหน้ากลับมามองจอโทรทัศน์เล่นเอาอีกคนชะงักงงเป็นไก่ตาแตกเพราะเพิ่งเคยถูกเมินใส่เฉยๆเป็นครั้งแรก


เป็นอะไรไป พี่ทำอะไรให้นายโกรธเหรอ


เปล่าครับ


แล้วทำไมถึงหันหน้าหนีกันอย่างนั้นล่ะ


ผมแค่อยากดูทีวีต่อ


จริงเหรอ


จริงสิครับ


ไม่อยากเชื่อเลย


ก็ไม่มีใครบังคับให้เชื่อนะครับ


ไม่เอาดิ...ถ้าโกรธก็บอกว่าโกรธ


ผมไม่ได้โกรธ แต่ตอนนี้มันจะจบแล้ว เดี๋ยวดูไม่รู้เรื่องคนเป็นเด็กหันมาบอกด้วยใบหน้าไร้อารมณ์แล้วหันกลับไปจ้องหน้าจออย่างตั้งใจ


จริงนะ เขาถามออกไปเสียงอ่อยด้วยความรู้สึกโง่ๆ ปกติแค่เขายิ้มคนก็ชอบเขาแล้วและถ้าถูกโกรธก็แค่แตะเนื้อแตะตัวคลอเคลียสักหน่อยก็หายแล้วแต่เด็กคนนี้เป็นความแปลกใหม่ของชีวิตจึงไม่รู้ว่าทำตัวเหมือนที่เคยจะโดนหนักกว่าเดิมหรือเปล่า


...แล้วทำไมต้องแคร์ด้วยวะ ไม่ใช่น้องแท้ๆสักหน่อย...


อืมเสียงจากในลำคอดังขึ้นอีกรอบ


แจวอนขยับตัวนอนคว่ำประสานแขนของตัวเองแทนหมอนแล้วแนบหน้าด้านหนึ่งนอนมองแผ่นหลังเล็กบางของเด็กตรงหน้าเงียบๆ ราวกับไม่รู้ว่าจะทำยังไงแต่สุดท้ายก็เป็นฝ่ายเปิดปากเริ่มบทสนทนาอีกครั้ง


พี่อยากกินคิบัมอ่ะเอ่ยปากชวนออกไปหวังให้อีกคนตอบกลับพอได้รับความเงียบมาแทนก็ไม่ลดละ ไปซื้อด้วยกันหน่อยสิ


คนอยากกินคือพี่นี่ครับ...อยากกินก็ไปซื้อเอง


ลงไปด้วยกันไม่ได้เหรอ พี่ไม่ค่อยสบายอยู่นะ อยู่ๆหน้ามืดเป็นลมไปทำไงล่ะ


ถ้ามันยุ่งยากก็อย่ากินเลยครับ


ก็คนมันหิวนี้...แต่ถ้ามีคนทำอะไรให้กินก็คงไม่ต้องลงไป


มีรามยอนในครัว พี่ไปต้มกินสิครับ


พี่ไม่อยากกินรามยอน


มีนมในตู้


พี่อยากกินของเค็มๆ


ไปเวฟแฮมที่ผมซื้อมากินก่อนก็ได้


ไม่เอา...กินแฮมเปล่าเคยปวดท้อง


งั้นโทรไปสั่งอะไรมากินแทนสิ


แต่พี่อยากกินคิบับ


โทรไปสั่งไง


พี่อยากกินคิบับใน G25


ซามูเอลหลับตาพลางถอนหายใจก่อนจะลุกจากพื้นหันมายืนกอดอกมองคนที่นอนคว่ำแต่เอียงหน้ามามองกันอยู่บนโซฟาแล้วกลอกตาไปด้านบนคล้ายเหลืออด


ทำไมถึงงอแงเป็นเด็กแบบนี้นะ...คิดว่าน่ารักเหรอ


แค่ลงไปซื้อคิบับข้างล่างด้วยกันมันจะอะไรหนักหนาล่ะคนโตกว่าโต้กลับเปลี่ยนจากนอนขึ้นมานั่งบนโซฟา


ถ้ามีแรงลุกมานั่งเร็วขนาดนี้ได้ พี่ก็น่าจะลงไปซื้อเองคนเดียวได้


ก็ไม่อยากลงไปคนเดียว


ทีกลับบ้านตีสามตีสี่คนเดียวไม่เห็นเป็นไร


พี่ไม่เคยไปไหนมาไหนคนเดียวตอนสี่ทุ่ม


ไม่เคยก็เคยซะสิ


โฮะ นี่นายพูดห้วนๆกับพี่เลยเหรอ


ถ้าไม่อยากให้พูดห้วนๆก็อย่าทำตัวเป็นเด็ก


โอ๊ย จะบ้าตาย ที่บ้านไม่สอนเหรอให้พูดกับผู้ใหญ่ดีๆ


ก็พี่มาเถียงผมก่อนทำไมล่ะ อายุมากกว่าแท้ๆไม่อายเหรอมาเถียงกับเด็ก


เออ พอ ไปเองก็ได้ สุดท้ายเจ้าของห้องก็เลือกตัดบทลุกพรวดจากโซฟาเดินไปหยิบกระเป๋าตังค์ในห้องนอนแล้วออกจากห้องคว้ามือถือบนโต๊ะข้างโซฟาปราดไปที่ประตูแล้วกระแทกปิดอย่างแรง


แจวอนเดินออกจากอพาร์ทเม้นต์ด้วยอารมณ์หงุดหงิด สองมือที่ล้วงอยู่ในกระเป๋ากางเกงกำแน่นแต่พอเห็นคนร่วมอพาร์ทเม้นต์ที่เห็นกันเป็นครั้งคราวก็ตีหน้านิ่งแกล้งยิ้มตอบให้กับคนที่ส่งยิ้มทักทายทั้งที่ข้างในร้อนแทบบ้า


...ตอนแรกก็เห็นใจดี อุตส่าห์ช่วยเขาไว้ก็นึกว่าจะสนิทกับเด็กได้ สุดท้ายก็อย่างที่คิด ไม่น่าไปยุ่งด้วยเลย...


คนโตกว่าขบกรามเดินตรงไปยังร้านสะดวกซื้อขนาดใหญ่ที่เปิดไฟสว่างซึ่งอยู่ไกลจากที่พักไม่ถึงสองร้อยเมตร พลางเตะกระป๋องที่กลิ้งมาขวางหน้าอย่างแรงส่งมันกระทบเสาไฟจนตกลงไปในถังขยะ


...ไม่ว่าจะอะไรก็ต้องทำเหมือนไม่เป็นไร การเป็นผู้ใหญ่แม่งน่าเบื่อฉิบ...


ชายหนุ่มสูดลมหายใจเดินผ่านชั้นวางที่เรียงรายด้วยของกิน ความหงุดหงิดที่อยู่ข้างในทำให้เขาหยิบขนมขบเคี้ยวยัดใส่ตะกร้าจากนั้นก็ตรงดิ่งไปยังตู้แช่เย็นแบบเปิดที่มีของกินสำหรับอุ่นไมโครเวฟกวาดคิบับที่เหลืออยู่ทั้งหมดลงมา ตามด้วยการพุ่งไปที่ตู้แช่เครื่องดื่มหยิบเบียร์กระป๋องทั้งแพ็กสมทบเข้าไป


...ถึงก่อนหน้านี้จะปวดท้องแต่ต้องดื่มถึงจะหายหงุดหงิด...


มือเรียวกระแทกประตูตู้แช่ปิดแล้วเดินเข้าไปในช่องทางเดินภายในร้านอยู่พักหนึ่งเพื่อให้อารมณ์เย็นลงและตอนที่เดินไปยังแถวที่มีสินค้าประเภทหยูกยาวางเรียงรายตาก็เห็นร่างเล็กสวมฮู้ดสีเทาลายบาร์ตคลุมหัวซุกมืออยู่ในกระเป๋าเสื้อยืนอยู่


...ไม่รู้ว่าเพราะอะไรแต่ตอนที่เขาเห็นเด็กคนนั้นอยู่ๆตรงหน้า ความโมโหที่แล่นอยู่ข้างในก็หายเป็นปลิดทิ้งแถมริมฝีปากก็ยิ้มออกมาเสียเฉยๆ..


ลงมาเป็นเพื่อนพี่เหรอเสียงกระซิบมีแววหยอกดังข้างหูทำให้คนอ่อนกว่าปรายตาไปมอง


เปล่า ผมก็แค่ลงมาซื้อของที่ลืมซื้อ


ซื้ออะไรอ่ะ


พวกยาใส่แผล...เผื่อมีคนโมโหไปต่อยใครเขาแล้วโดนกระทืบมาจะได้ไม่ต้องวิ่งหา


555


ขำอะไรครับ


เปล่านิปฏิเสธทั้งที่ยิ้มระรื่น  คนเป็นน้องถอนหายใจเหลือบตาไปในตะกร้าเห็นเบียร์กระป๋องเลยเอ่ยปาก


นี่พี่ซื้อเบียร์ไปด้วยเหรอ...เดี๋ยวก็ปวดท้องอีกหรอก...แล้วนั่นขนมน่ะถ้าไม่ได้คิดจะกินจริงๆ ก็อย่าซื้อ พวกคิบับก็ด้วยเหมาไปขนาดนั้นจะกินหมดเหรอ


มันก็


เอาไปเก็บไหม


ง่า...เข้าใจแล้ว จะเอาไปเก็บล่ะกัน คนตัวใหญ่กว่าวิ่งพรวดคืนทุกอย่างเก็บเข้าที่ตามคำสั่งแล้ววิ่งกลับมาหาคนที่ คล้องตะกร้ามีสำลี ยาใส่แผลกับปลาสเตอร์อยู่ข้างใน มือเรียวเลยคว้าตะกร้าออกจากแขนเล็กเทลงตะกร้า ตัวเองแทน
 
พี่ทำอะไร


อุตส่าห์ลงมาเป็นเพื่อน...อันนี้พี่จ่ายเองแล้วกัน

 
ก็บอกแล้วว่าไม่ได้ลงมาเป็นเพื่อน


อาๆ...ไม่เถียงล่ะ ลงมาซื้อของก็ได้อีกคนยกธงขาวยอมตามใจหิ้วตะกร้าเดินไปจ่ายเงินที่แคชเชียร์ทั้งที่ข้างในไม่คล้อยตามเลยสักนิด


เอาไอศกรีมสักถ้วยมะเขาถามระหว่างเดินผ่านตู้แช่ไอศกรีม


ไม่เอาครับ


พี่เลี้ยง


จริงเหรอครับ...แน่ใจนะ


อืม


งั้นก็เอานี่ นี่ นี่ นั้น นู้น นี่ นี่ นี่คนเป็นเด็กชี้นิ้วจะเอาทุกอย่างในตู้


เฮ้ย จะเหมาหมดตู้เลยเหรอ ไหนบอกถ้ากินไม่หมดอย่าซื้อมันเปลืองไง


พี่เป็นคนบอกเองว่าจะเลี้ยง


จ้าๆ จะเหมาหมดทั้งตู้ก็เอา คนพี่ถอนหายใจเสยผมหน้าไปมาแต่คนเป็นน้องกลับเอื้อมไปหยิบไอศครีมช็อกโกแลตชิปแบบถ้วยแค่ถ้วยเดียวใส่ลงตะกร้าทำเอาคนพี่พูดอึกอัก


ไหนว่า...


ผมล้อเล่น


นายนี่นะ...จริงๆเลยเขาบ่นพลางใจอีกรอบแล้วเดินไปจ่ายเงินก่อนหิ้วถุงเดินออกจากร้าน


แจวอนเหลือบมองเด็กผู้ชายที่เปิดไอศกรีมออกมาเลียฝาที่มีไอศกรีมเปื้อนอยู่ข้างๆ ทั้งที่อากาศรอบข้างค่อนข้างเย็นแต่หัวใจกลับอุ่น


ทำไมต้องเลียฝาด้วย กินในถ้วยไปเลยไม่ได้เหรอ


เสียดายน่ะครับ


อา...เป็นเด็กงกสินะเขาว่าแล้วพยักหน้าขึ้นลง นี่ ขอกินคำหนึ่งสิ


พอร้องขอ มือเล็กก็ยื่นไอศกรีมทั้งถ้วยมาหา


นายไม่เห็นเหรอ...พี่ถือของอยู่จะกินเองได้ไงเล่า


พี่นี่ นอกจากจะขี้เหงายังขี้บ่นขี้โวยวายด้วยเนาะ


อะไรนะ


เปล่า


เอาอีกล่ะ...มีอะไรก็พูดมาสิ


ถ้าพูดคงโกรธ


ไม่โกรธหรอก สัญญา


ทีพี่ยังไม่พูดเลย


ไม่พูดอะไร


จะให้คนอื่นพูดทุกสิ่งที่คิดทั้งที่ตัวเองก็ไม่พูด มันไม่แฟร์หรอก


ฮา...จริงๆเลย ชอบพูดเหมือนอ่านใจคนได้ตลอด


ผมอ่านได้นะ


จริงดิอีกคนทำตาโต งั้นบอกหน่อยสิว่าตอนนี้พี่คิดอะไร


ไอศกรีมสักคำล่ะมั่งเด็กชายตอบแล้วกวาดไอศกรีมที่เหลือก้นถ้วยทั้งหมดยื่นมาข้างหน้า


มั่วแล้วตอบแล้วก็อ้าปากงับไอศกรีมทั้งคำเข้าปาก เย็นจัง


ไอศกรีมไม่ใช่กาแฟร้อน ก็ต้องเย็นเป็นธรรมดา


อากาศก็เย็นนะ


ไม่เห็นจะเย็นตรงไหนคนตัวเล็กว่าโยนถ้วยไอศกรีมลงถังแล้วซุกมือไว้กระเป๋าเสื้อ


ก็นายมีเสื้อกันหนาวนี่


ช่วยไม่ได้ พี่ลงมาแล้วไม่เอาเสื้อติดมาเอง


อืม...ช่วยไม่ได้จริงๆ เพราะงั้นขอยืมกระเป๋าเสื้อหน่อยนะ บอกจบก็สอดมือข้างที่เหลือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อคลุมสีเทาแล้วจับมือคนตัวเล็กที่ซุกอยู่ในนั้นไว้ อา อุ่นจังเลย ขอบคุณน้า


ซามูเอลหรี่ตาเงยหน้ามองคนอายุมากกว่าที่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้แต่ดูผ่อนคลายกว่าที่พบกันแรกๆและดูดีกว่าตอนล้มฟาดกับพื้นมากเลยปล่อยให้กุมมือไว้โดยไม่พูดอะไร


ทั้งคู่กลับเข้าห้องมาในเวลาไม่ถึงยี่สิบนาทีโดยซามูเอลเป็นฝ่ายจะแยกตัวออกไปแต่ติดที่มือของอีกคนยังอยู่ในกระเป๋าและจับมือเขาไม่ยอมปล่อย


กินคิบับด้วยกันดิ


ไม่ครับ


จะปล่อยพี่กินคนเดียวจริงๆเหรอ


ผมง่วงแล้วจะไปนอน


อา ง่วงแล้วเหรอ โอเค งั้นก็ไปนอนเถอะไป ฝันดีนะ เอ้า ทำไมยังไม่ไปอ่ะ


จะให้ไปนอนก็ปล่อยมือผมสิ


เออ...ลืม โทษทีนะเขาว่าชักมือที่สอดในกระเป๋าเสื้ออีกคนออกทำท่าเหมือนจะปล่อยมือเล็กนั้นไปแต่ก็เปลี่ยนใจจับเอาไว้ก่อน


อะไรอีกครับ


ที่นายบอกว่าไม่อยากสนิทกับพี่...ตอนนี้เราสนิทกันแล้วนะ


สำหรับพี่แบบนี้เรียกสนิทเหรอ


อืม


คนที่สนิทกันเขาต้องคุยกันได้ทุกเรื่อง...เรายังไม่ถึงขนาดนั้น


วันนี้ก็คุยกันเยอะออก ทะเลาะกันด้วย...ปกติพี่ไม่ทะเลาะกับใครหรอกนะรู้ไว้เลย


ก็แค่นาฬิกาชีวิตพี่มันรวนเราก็เลยได้คุยกัน พอพรุ่งนี้พี่หายดีเราก็อยู่คนละโลกแล้ว


มันไม่ถึงขนาดนั้นหรอกน่า...ถ้ากลับมาบ้านเจอกันก็คุยเล่นกันสิ


ไม่เจอกันหรอก


นายนี่ประหลาด...ใครๆเขาก็อยากสนิทกับพี่ทั้งนั้นแต่นายกลับไม่อยาก


ไอ้ใครๆนี่มันคนอื่นไม่ใช่ผมไง แล้วพี่จะปล่อยผมไปนอนได้หรือยัง


ชายหนุ่มเม้มริมฝีปากให้กับคำถามขณะที่มือยังยื้ออีกคนเอาไว้ไม่ให้เป็นอิสระ


เอางี้มะ...มาเล่นเกมกัน


เกม


ผมจะให้เวลาพี่สามวัน ถ้าพี่ทำให้ผมหัวเราะได้ผมจะทำตามที่พี่ขอหนึ่งข้อ แต่ถ้าทำไม่ได้พี่ต้องทำตามที่ผมขอหนึ่งข้อ


ดวงตากลมโตอ่อนเดียงสาจ้องตรงมายังดวงตาคมสีเข้มนิ่งงันพร้อมกับนิ้วชี้ที่ยกขึ้นมาแทนความหมายของคำขอหนึ่งข้อที่กล่าวไปเมื่อครู่


ขออะไรก็ได้เหรอชายหนุ่มเอียงคอถาม


อะไรก็ได้ ยกเว้นเรื่องแปลกๆ


เรื่องแปลกๆที่ว่าเช่นอะไร


ถ้าพี่ขออะไรมาแล้วมันแปลก ผมจะบอกเอง


แบบนี้พี่ก็เสียเปรียบดิ


พี่จะเล่นหรือไม่เล่นก็ได้ ไม่ได้บังคับ แต่ถ้าไม่เล่นแล้วยังไม่ยอมปล่อยมือ...ผมจะหักข้อมือพี่


ห๊ะ


ไม่ได้ขู่นะ ผมเรียนมวยไทยกับยูโดจนได้สายดำแล้ว ไม่เชื่อถามคุณป้าได้


อา โหดอ่ะ


ตกลงว่ายังไงครับ


จะเล่นก็ได้...แต่นายให้เวลาพี่แค่สามวัน แล้วเกิดสามวันนี้พี่ไม่เจอนายเลยพี่ก็แพ้ตั้งแต่ยังไม่ทำอะไรเลยดิ ถ้าไงเอาเบอร์โทรศัพท์หรือไอดีคาทกนายมาหน่อยสิพี่จะได้ถามได้รู้ว่าอยู่ไหนทำอะไร


ไม่ต้องหรอกครับ...แค่กลับบ้านให้เร็วหน่อยก็เจอผมแล้ว อา ไม่ไหวแล้ว ผมง่วง ไปนอนก่อนนะครับ คนอ่อนกว่าเอ่ยแล้วพลิกข้อมือแล้วกระตุกอย่างแรงจนหลุดจากการเกาะกุมแต่ทำให้มืออีกคนสะบัดกระแทกท้องตัวเอง


โอ๊ย...เจ็บนะ นายนี่มัน เอ้า ยังไม่ทันจะรู้เรื่องเลย หนีไปอีกแล้ว บ้าจัง


แจวอนกลอกตาบนอมลมแล้วพ่นมันออกจากปากมือข้างที่หิ้วถุงพลาสติกเท้าเอวพร้อมกับมืออีกข้างที่เกาหัวไปมา ก่อนจะเดินไปโต๊ะข้าวก็พอดีกับที่โทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงเกิดสั่นและมีเสียงแจ้งเตือนเลยหยิบออกมาดูพอเห็นกล่องข้อความจาคาทกที่เด้งขึ้นมาริมฝีปากก็เหยียดกว้าง


Sameul_punch
>กินคิบับก็กินยาแล้วไปนอน เดี๋ยวปวดท้องเดือดร้อนคนอื่นอีก


555 เด็กประหลาดเขาพึมพำทั้งที่ยิ้มแล้วกดข้อความส่งกลับไป


ซามูเอลดึงผ้าห่มหนาขึ้นมาคลุมตัวเตรียมจะนอนเห็นแสงจากหน้าจอบนโต๊ะข้างเตียงสว่างเลยหยิบมาดูก็เห็นข้อความที่อีกคนส่งมา


One
>รู้แล้ว...ฝันดีนะ เจอกันพรุ่งนี้


มือเล็กกดปิดหน้าจอโทรทัศน์วางมันกลับไปบนโต๊ะ ดวงตากลมของอีกคนกลอกไปมาพักหนึ่งก็ล้มตัวลงนอนมองเพดานห้องพลางถอนหายใจ


...เกมที่คิดขึ้นเพราะคิดว่าอีกคนคงทำไม่ได้ อาจไม่ใช่ความคิดที่ดีแล้วสิ...


You Might Also Like

0 Comments