Thorn Flower : CHAPTER EIGHT

05:55



เอามาเฉพาะของที่ใช้สำหรับเรียน นอกนั้นผมซื้อให้แล้ว คำสั่งเสียงเรียบที่ไล่หลังมานั้นทำให้คนตัวผอมที่กำลังเดินเดินขึ้นเนินที่ทอดยาวไปสู่บ้านหลายหลังหยุดเท้าหันหลังมามอง


การที่ผมยอมไปกับคุณ ไม่ได้หมายความว่าผมจะรับสิ่งที่คุณให้เสียงหวานปนแหบเอ่ยอย่างเรียบเย็นเฉกเดียวกัน


มัวแต่เก็บเสื้อผ้ามันเสียเวลานัยน์ตาคมกริบของคนตัวใหญ่ทอดมายังอีกคนที่ยืนนิ่งเหมือนหิน


ผมไม่ได้ขอให้คุณตามมา ถ้าคิดว่าเสียเวลาก็ไปรอที่ร้านกาแฟ ประโยคนั้นหลุดออกมาจากเจ้าของร่างผอมอีก แต่ไม่มีเสียงตอบรับจึงเสริมอีก ผมไม่หนีหรอก


ผมไม่ได้กลัวคุณหนี คนตอบเว้นจังหวะเล็กน้อยจึงต่อ อากาศร้อน เกิดคุณปวดกระเพาะขึ้นมาจะไม่มีคนช่วย


แบมแบมเม้มริมฝีปากพยายามสะกดทุกความร้อนที่หลั่งไหลขึ้นมาแล้วเดินต่อไปข้างหน้า ภายในใจคิดใคร่ครวญว่าตนเองจะหาหนทางได้ของคืนโดยไม่ต้องทนอยู่กับผู้ชายคนนี้ได้อย่างไร กว่าจะรู้ตัวว่าเดินมาใกล้บ้านของตนแล้วก็เมื่อได้กลิ่นหอมของดอกไม้ที่คุ้นเคยโชยมาตามลม


ชายหนุ่มมองพุ่มดอกไม้สีขาวบานสะพรั่งที่ปลูกเป็นแนวตามแนวรั้วและบ้านไม้สองชั้นที่มีบริเวณพอให้ทำราวตากเสื้อผ้าและจอดเวสป้าซึ่งมีดอกไม้ชนิดเดียวกันกับแนวรั้วปลูกอยู่ด้านใน


คุณรู้ใช่ไหมว่าการบุกบ้านคนอื่นทั้งที่ไม่เชิญมันเสียมารยาทและผิดกฎหมายเด็กหนุ่มว่าพลางปรายตามองมายังคนที่ยืนห่างออกไปไม่ไกล


ผมไม่เข้าไปหรอก...ถ้าคุณกลับออกมาภายใน 15 นาทีนี้สิ้นคำคนตัวผอมก็ไขกุญแจผลักประตูรั้วหายเข้าไปในบ้านปล่อยคนที่มีอำนาจเหนือกว่าไว้เพียงลำพัง


แจ็คสันสูดกลิ่นหอมขณะไล้สายตาพินิจดอกไม้สีขาวที่บานสวยอยู่บนต้น นิ้วเรียวใหญ่ยื่นไปสัมผัสแผ่วบนกลีบดอกพิสุทธิ์นั้นราวกับเป็นผ้าแพรชั้นดีที่ควรค่าแก่การถนอม แต่เสียงเรียกเข้าและการสั่นสะเทือนในกระเป๋าเสื้อหนังทำให้เขาละความสนใจจากดอกไม้มายังสมาร์ทโฟน


มีอะไรเขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงและแววตานิ่งเย็น


ผลตรวจกระสุนกับเขม่าดินปืนออกมาแล้วครับท่าน...ผลตรวจเปรียบเทียบกระสุนกับอาวุธที่ใช้จากตัวท่านประธาน เป็นกระสุน .480 ยิงมาจากสไนเปอร์ Chaytac M200 ส่วนบนตัวท่านรองประธานคือ Korth .357 เป็นแบบเดียวกับปืนที่หายไปของท่านรองครับ


งั้นหรือ


ผมส่งรายละเอียดอื่นๆไปให้ท่านทางอีเมล์แล้วนะครับ


แล้วยังไงอีก


เรื่องอาการของท่านประธาน ดูเหมือนท่านจะรู้สึกตัวแล้ว


ท่านรองล่ะ


แพทย์ประจำตัวของท่านรองแจ้งว่าพร้อมจะออกจากโรงพยาบาลแล้ว ท่านจะให้อนุมัติให้ออกจากโรงพยาบาลหรือจะให้จัดการอย่างไรต่อครับ


บอกให้รอ ฉันจะจัดการเอง ชายหนุ่มตอบเสียงเย็นแล้วกดวางสายเก็บมันกลับเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ นัยน์ตาคมกล้าไร้แววอารมณ์หากภายในกำลังครุ่นคิด


แบมแบมกระชับกระเป๋าสะพายหลังใบใหญ่บนบ่าจากนั้นจึงผลักประตูรั้วออกมา สายลมกรรโชกแรงพาดมาจนแมกไม้เอนไหว ดวงตากลมสวยทั้งคู่ทอดไปยังคนตัวใหญ่ที่แนบหน้ากับดอกซ่อนกลิ่นขาวบนต้น เรือนผมสีนิลถูกแสงสุดท้ายของวันย้อมกลายเป็นสีส้มทอง วูบหนึ่งหัวใจคนมองสัมผัสได้ถึงความเศร้าที่ร้าวลึก


มีคนเคยบอกผมว่า คนปลูกดอกไม้ถ้าอยากให้มันสวย ต้องใช้หัวใจรดลงไปพร้อมกับน้ำ เสียงแหบต่ำกล่าวคำพร้อมกับเท้าที่ก้าวมาใกล้ มือใหญ่เอื้อมมาจับสายกระเป๋าสะพายหลังของคนตัวผอมหมายจะช่วยแต่เจ้าของออกแรงทั้งหมดที่มีขืนไว้


ดื้อ คนตัวใหญ่ว่าแล้วดึงกระเป๋าทั้งใบจากคนตัวผอมมาสะพายไว้เองอย่างง่ายดาย ผมจอดรถไว้ที่หน้าร้านพี่สาวคุณ พอไปถึงอย่าลืมบอกพี่สาวคุณด้วยล่ะว่าคุณจะไปอยู่กับผม ถ้าโทรหาพี่ชายได้ก็โทรไปบอกเขาด้วย เขาจะได้ไม่เป็นห่วง


คนอย่างคุณสนใจความรู้สึกคนอื่นเขาด้วยเหรอ


ผมแคร์คุณ...มากกว่าที่คุณคิด


แจ็คสันเอ่ยด้วยใบหน้าเรียบเฉย แปลกที่บางสิ่งที่ซ่อนลึกอยู่ในดวงตาคมมีแววอุ่นก่อนที่เขาจะกระชับสายกระเป๋าบนบ่าและเป็นฝ่ายก้าวเท้าเดินนำไปข้างหน้า ทิ้งให้คนตัวผอมที่ยืนอยู่หน้ารั้วได้แต่มองตามไปเงียบๆ แม้ในความคิดยังติดค้างอยู่กับความสงสัยที่ว่า ผู้ชายคนนี้ต้องการอะไรกันแน่ก็ตาม
--------------------------------------------
เสียงกระดิ่งหน้าประตูของร้านกาแฟดังขึ้นอีกครั้งทำให้หญิงสาวที่ยืนกัดเล็บหน้าเครียดอยู่หลังเคาน์เตอร์รีบหันมามอง เมื่อเห็นว่าเป็นใครที่เดินเข้ามาก็แทบกระโจนออกมาหาด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก


ฮโยซองไม่รู้ว่าตัวเองทำผิดพลาดหรือหาเรื่องเดือดร้อนมาให้ตระกูลอิมหรือเปล่า แต่ผู้ชายแปลกหน้าคนนั้นที่อ้างตัวว่าเป็นรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยของแบมแบมคนนั้นรู้หลายอย่างเกี่ยวกับแบมทำให้หล่อนวางใจสนทนาด้วย ทว่าท่าทางของแบมที่พยายามจะให้หล่อนไปคุยด้วยนั้นทำให้รู้ว่าผิดปกติ


...สิ่งที่เธอกลัวที่สุดคือการนำเรื่องเดือดร้อนมาให้ครอบครัวนี้แต่อย่างน้อยที่สุดเธอก็จำได้ขึ้นใจว่า ห้ามบอกใครเรื่องที่แจบอมเป็นตำรวจ...


เขาถามหรือเล่าอะไรให้คุณฟังคำถามนั้นดังขึ้นทำให้หัวใจคนฟังกระตุก


เขาไม่ใช่รุ่นพี่แบมเหรอหล่อนถามด้วยน้ำเสียงเจือแววสั่นและนั่นทำให้อีกฝ่ายลอบถอนหายใจ


ใช่


จริงๆเหรอ


อืม...ตกลงแล้วเขาพูดอะไรกับคุณหรือเปล่า


อา..เขา เขาบอกว่าเขาชื่อแจ็คสัน หวัง เป็นรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยของแบมที่เรียนจบไปแล้ว บังเอิญวันก่อนเจอกันเขาบอกพี่ว่าแบมตกลงจะไปอยู่ช่วยงานวิจัยของเขาประมาณสองสามเดือน เขาเลยเอาของที่แบมทำตกมาคืนแล้วก็มาขออนุญาตให้แบมไปอยู่กับเขา แต่พี่บอกเขาว่าต้องขอจากพี่ชายของแบมก่อน พี่ไม่ได้บอกหรอกชื่อคุณแจบอมออกไปหรอกนะ แล้วเขาก็ถามพี่อีกว่าพี่ชายของแบมทำงานอะไร อยู่ที่ไหน มีเบอร์ติดต่อไหม เขาจะไปขออนุญาตเอง


แล้วคุณบอกเขาไปว่ายังไง


พี่บอกเขาว่าคุณแจบอมทำงานที่ต้องไปต่างประเทศบ่อย ไม่ค่อยอยู่กับบ้าน คงไม่สะดวกคุยด้วย เขาเลยให้นามบัตรพี่ไว้ ถ้าสะดวกเมื่อไหร่ให้คุณแจบอมโทรหาเขา...ว่าแต่แบมจะไปอยู่กับเขาจริงๆเหรอ


เด็กหนุ่มจ้องนัยน์ตาสีน้ำตาลที่มีแวววิตกกังวลชัดแล้วพยักหน้ารับแทนคำตอบ


จำเป็นต้องไปอยู่กับเขาด้วยเหรอ ช่วยงานวิจัยเขาแล้วกลับมานอนที่บ้านไม่ได้เหรอ หรือจริงๆแล้วเขาบังคับแบม ที่ต้องไปกับเขาแบมโดนบังคับหรือเปล่า พี่หาเรื่องเดือดร้อนมาให้หรือเปล่า พี่... หล่อนกระพริบตาพยายามไล่น้ำตาที่รื้นออกมาจากความกังวลแต่ไม่ทันจะได้พูดจนจบ มือเรียวผอมของคนตรงข้ามก็ยื่นมาสัมผัสเบาบนเรือนผมนุ่มแม้ใบหน้าเซียวนั้นจะไม่ยินดียินร้าย หากหล่อนรู้ว่ามันคือการปลอบใจ


อย่าห่วงเลย ไม่มีอะไรหรอก


แล้วแบมโทรไปบอกคุณแจบอมหรือยัง


ตอนนี้เขามีงานสำคัญ ผมไม่อยากรบกวนเขา ไว้เขาติดต่อมาผมค่อยบอกเขา


แน่ใจนะว่าไม่ได้โดนบังคับ คำถามเดิมยังคงย้ำแต่อีกคนยังพยักหน้าเช่นเดิม ถ้าไปอยู่กับผู้ชายคนนั้นแล้วยังมาที่นี่ได้หรือเปล่า ยังไงถ้าเป็นไปได้มาหาพี่ที่ร้านทุกวันได้ไหม หรือโทรมาก็ได้ ให้พี่รู้ว่าแบมสบายดี


อืม


ถ้ามาไม่ได้ต้องโทรนะ ต้องโทรหาพี่ให้ได้นะ


เข้าใจแล้ว ผมไปนะ เด็กหนุ่มตอบพลางทอดมองคนที่ยังไม่คลายความเป็นห่วงด้วยแววตาที่อ่อนลงก่อนหันหลังมองไปยังชายหนุ่มที่ยืนกอดอกอยู่ตรงรถสปอร์ตคันงามที่จอดอยู่ริมทางหน้าร้าน ขณะที่เท้าจะย่างไปใกล้ประตู มือใหญ่ของใครคนหนึ่งก็คว้าแขนเอาไว้


ยองแจเม้มริมฝีปากลอบมองออกไปทางกระจกใสของร้านเป็นระยะอย่างระแวดระวังและเมื่อหันกลับมาหาคนตัวผอมที่ยืนนิ่งมองมือของเขาที่จับบนแขนผอม มือเขาก็หลุดออกแทบทันที


เขาดูเหมือนมาเฟียเลยนะ ถ้าคุณโดนบังคับคุณไม่ต้องพูดแค่เขยิบตาให้ผมก็ได้นะ...ผมจะโทรแจ้งตำรวจให้


ไม่ต้อง


แต่... ชายหนุ่มว่ารีบหันกลับมาทันทีที่สายตาไปสบเข้ากับคนที่ยืนรออยู่ด้านนอก ได้แต่หยิบกระดาษกับปากกาในกระเป๋ามาจดบางอย่างแล้วยัดใส่มือผอม


ถ้าเขาทำอะไรไม่น่าไว้ใจ โทรหาผมได้ทุกเมื่อเลยนะ


แบมแบมคลี่มือมองกระดาษสีขาวที่มีปากกาเขียนเบอร์โทรศัพท์ก่อนจะหันไปมองความห่วงใยอย่างจริงใจที่ฉายอยู่บนหน้าของผู้เป็นทั้งพนักงานของร้านและรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัย


...เขาเป็นคนดี...คนดีที่ไม่ควรเข้าใกล้คนอย่างเขา


อย่าดีกับผมเลยคำสั้นๆนั้นหลุดจากปากไปพร้อมกับเสียงกระดิ่งประตูที่ดังขึ้น


ชายหนุ่มนิ่งงันไปกับประโยคแผ่วเบาแต่เย็นเยียบในหัวใจที่ได้ยินเมื่อครู่ ดวงตามองไปยังแผ่นหลังผอมที่เดินไปสมทบกับคนตัวใหญ่ที่ยืนรออยู่
 

...มันเหมือนไม่มีทางที่จะหลอมเศษแก้วให้กลับมาเป็นแก้วได้ดังเดิม...
-----------------------------------------------------------------------------------
รถสปอร์ตสีดำเคลื่อนเข้ามาจอดในชั้นใต้ดินของคอนโดมิเนียมหรูแห่งหนึ่งในชองชัมดง เด็กหนุ่มมองลานจอดที่มีเพียงรถยนต์ราคาแพงจอดก่อนเลิกแขนเสื้อขึ้นมองเวลาบนนาฬิกาข้อมือ...ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงจากร้านกาแฟมาถึงนี้แต่บรรยากาศในรถที่มีเพียงความเงียบ แม้มีเสียงเพลงบรรเลงคอยกล่อมกลับทำให้คนโดยสารที่ทรมานกับอาการปวดท้องจากความเครียดชั่วกัปป์ชั่วกัลป์แต่ไม่แสดงออกผ่อนคลายขึ้น


ตามมา คนตัวใหญ่บอกพลางสะพายกระเป๋าใบใหญ่ที่เต็มไปด้วยตำราเรียนและเสื้อที่ต้องใส่เวลาไปมหาวิทยาลัยขึ้นบ่าทันทีที่คนตัวผอมก้าวลงจากรถ


คนตัวผอมเดินตามหลังและขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นยี่สิบแปดเงียบๆ โดยเลือกจะยืนห่างจากคนที่พาตนเองมาราวสองไม้บรรทัดพลางกวาดมองทุกสิ่งรอบข้างโดยละเอียดเพื่อหาทางหนีทีไล่ มีกล้องวงจรปิดติดอยู่ทั้งสี่มุมของลิฟต์และเพดานลิฟต์ไม่มีช่องให้ลอดผ่าน  


ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิด แจ็คสันก้าวออกมาหยุดยืนหน้าประตูไม้สีแดงที่แกะสลักเป็นลวดลายมังกรสองตัวหันหน้าเข้าหากันอย่างประณีต มือจับประตูทองเหลืองในแต่ละด้านของประตูมีฐานเป็นลวดลายของสิงโต เมื่อคียการ์ดสัมผัสลงบนเครื่องพร้อมกับปลายนิ้วโป้งที่ประทับลงไปบนเครื่องที่ติดอยู่ข้างๆกริ่งประตูบ้านที่มีกล้องอินเตอร์คอมในตัวก็ผลักเข้าไปข้างในได้อย่างง่ายดาย


แบมแบมถอดรองเท้าไว้บนชั้นวางไม้แกะสลักสีดำที่อยู่ใกล้ประตูก่อนจะก้าวเท้าเหยียบบนพื้นหินอ่อนสีดำเข้าไปในเพนท์เฮ้าส์กว้างขวางที่ตกแต่งอย่างหรูหราสไตล์จีนโบราณผสมผสานกับความเป็นตะวันตกโดยเลือกใช้โทนสีดำ แดงและทองเป็นหลัก มีภาพเขียนลายเส้นพู่กันจีนประดับไว้ในแต่ละห้องและทางเดินอย่างลงตัว หากเดินผ่านประตูไม้ทรงกลมที่แกะสลักลายโดยรอบอย่างวิจิตรจะมีบันไดไม้สีดำปูด้วยพรมทอสีแดงที่ทอลายตรงขอบเป็นรูปดอกไม้สีทองทอดไปสู่ชั้นลอยใต้บันไดนั้นมีภาพเขียนสีขนาดใหญ่เล่าเรื่องราวของขุนศึกผู้เกรียงไกรออกรบบนหลังม้า


ข้างบนนั้นเป็นห้องนอน...ถ้าเดินขึ้นไปห้องคุณอยู่ซ้ายมือ แต่ผมมีธุระต้องออกไปข้างนอก ผมจำเป็นต้องคุยเรื่องกฎการอยู่ด้วยกันของเราก่อนแล้วจะปล่อยให้คุณไปสำรวจห้องนอน คนตัวใหญ่บอกพลางวางกระเป๋าไว้ตรงบันไดจากนั้นจึงเดินย้อนกลับไปที่ประตูหน้าเพนท์เฮ้าส์อีกครั้ง


ที่นี่ถ้าจะเข้าออกได้ต้องสแกนนิ้วและมีคียการ์ด ชายหนุ่มเริ่มพูดแล้วจัดการบางอย่างบนเครื่องแล้วสั่งให้คนตัวเล็กกว่าทาบนิ้วไปบนเครื่องหลายครั้งจากนั้นจึงกดปุ่มบนเครื่องและส่งคีย์การ์ดให้ แล้วต่อจากนี้ไปทุกเช้าผมจะไปส่งคุณที่มหาวิทยาลัย ส่วนตอนเย็นถ้าผมไม่ว่าง ผมจะส่งคนไปรับคุณ


เพื่ออะไรนั่นเป็นคำแรกที่หลุดจากปากคนที่เงียบมาตลอดชั่วโมง แต่อีกฝ่ายแสร้งทำไม่ได้ยินยังคงพูดต่อ


ถ้าคุณอยากไปไหนให้บอกกับคนที่ไปรับคุณ อย่าไปเองโดยพละการและกรุณากลับบ้านภายในสี่ทุ่ม แล้วก็ใส่นี่เอาไว้ด้วยเขาว่าแล้วหยิบบางสิ่งคล้องลงบนข้อมือของอีกฝ่าย คนตัวผอมสะดุ้งก้มมองนาฬิกาที่ถูกสวมลงมา เมื่อสังเกตโดยละเอียดบนหน้าปัดแบบทัชสกรีนที่แสดงเวลา พิกัด GPS และไอคอนรูปกล่องมีรูปกุญแจในกล่องอยู่ด้านล่างตัวเลขทั้งหมด


ผมไม่มีเวลาทำอาหาร เพราะงั้นถ้าคุณอยากกินอะไรบอกผม แล้วผมจะสั่งไว้ให้ แต่วันนี้ผมคงกลับดึก ผมเลยสั่งอาหารมื้อเย็นไว้ให้คุณแล้วอยู่ในครัว หิวก็ไปอุ่นกิน ส่วนของที่อยู่ในครัวคุณกินได้หมด ถ้าจะใช้ห้องน้ำ ห้องน้ำตรงชั้นลอยที่อยู่ใกล้ห้องนอนเป็นของคุณคนเดียว ของในนั้นผมซื้อให้ใหม่หมด เจ้าของห้องอธิบายถึงสิ่งที่อีกฝ่ายควรรู้ขณะถอดเสื้อคลุมหนังพาดบนโซฟาและหยิบเสื้อสูทสีดำขึ้นมาสวมแทน  แต่ทันทีที่เห็นอีกคนพยายามแกะข้อมือที่เขาสวมให้เมื่อครู่จึงเอ่ยขึ้นมาอีก


คุณแกะให้ตายมันก็ไม่ออกหรอกถ้าไม่มีรหัส...เครื่องติดตามตัวนั้นผลิตขึ้นเป็นพิเศษกันน้ำ กันการกระแทกต่อให้โดนระเบิดมันก็ไม่พัง


เห็นผมเป็นโจรหรือไง


แต่ถ้าคุณอยากเอาออกจริงๆ ก็ไม่ยากหรอก ลองเดารหัสดู แต่เดาให้ถูกภายในสามครั้งละ ไม่งั้นผมต้องเรียกช่างจากเยอรมันมาถอดหรือเอาง่ายๆก็ยอมตัดแขนออก เป็นอีกครั้งที่เขาปล่อยผ่านคำพูดของอีกฝ่ายด้วยการแทรกพูดเอง


ถ้าจะมีเลือดนองที่นี่ มันต้องเป็นเลือดคุณ ไม่ใช่เลือดผม


ก็ดี อย่างน้อยคุณก็ไม่บ้าขนาดจะตัดแขนตัวเองเพื่อเอาไอ้เครื่องนั้นออก เอาล่ะ ผมต้องไปทำงานของผมก่อน แล้วเจอกันตอนดึกๆ ถ้าคุณยังไม่นอน


แจ็คสันมองคนที่ปริปากแทบนับคำได้ตรงหน้า ดวงหน้านวลขาวเซียวแม้ไร้อารมณ์เหมือนกระดาษไร้ตัวอักษร หากพินิจถี่ถ้วนยังมีรอยละมุนหลงเหลือ ริมฝีปากของคนมองค่อยๆเหยียดกว้างพร้อมกับมือใหญ่เอื้อมไปจะลูบผมนุ่มนั้นหากฝ่ายตรงข้ามขยับหนีทันทีทำให้เขาหยุดมือไว้เท่านั้น


ผมไปล่ะ แล้วจะรีบกลับ


แบมแบมจ้องคนตัวใหญ่ที่ทิ้งท้ายคำขู่และเปิดประตูออกไปจากเพนท์เฮ้าส์เขม็ง ริมฝีปากอิ่มเม้มแน่นเช่นเดียวกับฝ่ามือที่กำเข้าหากัน ความรู้สึกในเวลาพล่านเดือดเหมือนน้ำร้อนในหม้อ ช่วงจังหวะที่ประตูแนบสนิทลงกับกรอบเขาก็เดินตรงไปคว้ากระเป๋าที่วางอยู่ตรงบันไดและเดินไปยังห้องนอนของตัวเอง
------------------------------------------------------------------------
หยดน้ำตกกระทบลงบนหน้าต่างส่งเสียงดังเป็นจังหวะก่อนจะถี่ขึ้นและกลายเป็นพายุฝนโหมกระหนำ คนบนเตียงผู้ป่วยทอดสายตาไกลออกไปยังแสงสลัวจากโคมไฟถนนด้านนอกเนิ่นนาน โดยมีบอดี้การ์ดหนุ่มนั่งหลังตรงอยู่บนโซฟาโดยไม่พูดจา ปล่อยให้ความเงียบระหว่างกันดำเนินไปเช่นทุกวัน


นับแต่เดินเหินได้เป็นปกติ รองประธานบริหารลีโกสคอร์เปเรชั่นใช้เวลาหมดไปกับการคิดมากกว่าพูดและไม่พยายามแม้แต่จะอาละวาดหรือหนีไปไหนอย่างที่หลายคนเคยคิดกลัว สีหน้าและแววตาไร้ความรู้สึก หากบางคราเหี้ยมเกรียมเลือดเย็นราวกับคนที่รอเวลาจัดการกับทุกผู้ทุกคนที่ทำให้ต้องติดอยู่ในโรงพยาบาลและความรู้สึกที่ตัวเองเป็นผู้ถูกกล่าวหา


ท่านจะไหนครับแจบอมถามทันทีที่เห็นคนบนเตียงขยับตัวหันปลายเท้าทั้งสองข้างวางบนพื้น


ห้องน้ำ คำตอบสั้นห่างเหินพร้อมกับร่างโปร่งบางที่ก้าวเข้าไปในห้องน้ำ คนถามได้แต่ลุกจากโซฟาและยืนรอไม่ไกลจากประตูห้องน้ำราวยี่สิบนาทีที่มีเพียงเสียงน้ำไหลทำให้คนรอเริ่มไม่แน่ใจว่า เกิดอะไรขึ้นกำลังจะเคาะเรียกเป็นจังหวะเดียวกับที่มีใครคนหนึ่งเปิดประตูเข้ามา


...คนนั้นเป็นคนเดียวกับที่พาเขามาที่นี่...


นายออกไปก่อนคำสั่งดังขึ้นแทบทันทีที่เห็นคนที่ยืนรออยู่ตรงห้องน้ำโค้งทำความเคารพ


ออกไปไหนครับ


จะมีคนมาพบท่านรอง...นายออกไปก่อน


แต่หน้าที่ผมคือดูแลท่าน จะให้ออกไปโดยไม่บอกท่านก่อนคงไม่ได้ครับ


บอดี้การ์ดหนุ่มสบสายตากับผู้มีอำนาจเหนือกว่า แววตาของทั้งคู่เรียบเฉยหากลึกลงไปเป็นการหยั่งเชิงกันอยู่ในที ก่อนที่ประตูห้องน้ำที่เปิดออกจะทำให้คนทั้งคู่ก้มหน้าให้แก่คนที่เดินออกมาคั่นกลางระหว่างทั้งคู่


ให้เขาอยู่เสียงต่ำลึกแสนกระด้างนั้นเอ่ยขึ้น


แต่ผมเกรงว่าจะไม่เหมาะสม


มีอะไรที่ไม่เหมาะ เขาเป็นบอดี้การ์ดที่หมอนั่นไว้ใจส่งมา ทำไมจะไว้ใจให้อยู่ฟังเรื่องที่คุยด้วยไม่ได้


ชายผู้นั้นหลุบตาต่ำเหมือนลำบากใจและพยายามหาทางออก หากเสียงข้อความที่ดังจากด้านในกระเป๋าเสื้อสูททำให้เขาเหความสนใจมาดูข้อความและแจ้งเรื่องที่ได้รับมาให้ทราบใหม่


ที่ปรึกษาของท่านให้ผมเชิญท่านไปที่ห้องไอซียูเพื่อดูอาการท่านประธาน ท่านย้ำว่าให้ไปเป็นการส่วนตัว เกรงว่าจะให้บอดี้การ์ดของท่านตามไปด้วยไม่ได้


คนที่อยู่ในชุดผู้ป่วยนิ่งปรายตาไปยังบอดี้การ์ดของตนเองที่ยืนใกล้ตนเองชั่วนาทีจึงมองกลับมายังลูกน้องใกล้ชิดที่ตามติดผู้เป็นพ่อเลี้ยงมานานเกือบเท่าอายุของเขาแล้วเดินตามหลังออกจากห้องคนไข้ที่อาศัยมานานนับเดือนออกไปด้านนอก


มาร์คสูดกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อที่เจือในอากาศขณะเดินตามหลังลูกน้องของตนเองไป ภายในยังคงสงบนิ่งแม้จะผลักประตูผ่านมาเข้ามาในห้องไอซียูกระทั่งเห็นร่างใหญ่ในชุดดำปรากฏตัวอยู่ตรงหน้า นัยน์ตาสีสวยนั้นมีประกายร้อนวาวขึ้นชั่วขณะก่อนจะประสานเข้ากับนัยน์ตาคมกล้าที่ละจากห้องกระจกหันมามองกันช้าๆ


ท่านรู้สึกตัวแล้ว นั่นเป็นคำแรกที่เกิดขึ้นระหว่างกันในรอบเดือน มาร์คขยับเข้าไปมองร่างของชายสูงวัยที่นอนนิ่งอยู่ในห้องกระจกครอบออกซิเจนโดยที่มีเครื่องมือแพทย์และสายระโยงระยางค์เต็มตัว ใบหน้าและท่าทางอันสง่างามที่เห็นเป็นอาจิณกลับโรยแรงเหมือนชายชราที่ไม่มีอำนาจต่อกรต่อสิ่งใดอีกแล้ว


มือเรียวสวยกำเข้าหากันแน่นจนเล็บสั้นที่ถูกบอดี้การ์ดช่วยตัดให้ในยามหลับแทบจะจิกลึกเข้าถึงเนื้อ ด้วยสัญชาตญาณก็รู้ได้ในทันทีว่า คนในห้องนี้ไม่มีวันกลับมาเหมือนเดิม


ที่อุตส่าห์ยอมให้ออกมานี้คงไม่ใช่เพราะเรื่องแค่นี้หรอกใช่ไหมประโยคนั้นเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา


ผมมีเรื่องจะถาม...เกี่ยวกับเรื่องปืน


ทำไม


ผลตรวจเปรียบเทียบกระสุนออกมาแล้ว ปืนที่ใช้ลอบสังหารท่านประธานเป็นปืนชนิดที่มืออาชีพเท่านั้นจะทำได้ซึ่งมีรายชื่อมือปืนนอกสังกัดที่เข้าข่ายนี้ไม่กี่คนและผลตรวจกระสุนบนตัวท่านเป็นแบบเดียวกับปืนที่หายไปของท่านในวันนั้น


คนอย่างฉันถ้าคิดจะทำอะไร ต้องไม่มีอะไรสาวมาถึงตัว


แต่ก็เป็นไปได้ที่คนฉลาดอย่างท่านจะใช้วิธีทำให้ตัวเองกลายเป็นผู้ต้องสงสัยเพื่อให้คนอื่นคิดว่าท่านถูกใส่ร้าย


ในทางกลับกันก็เป็นไปได้เช่นกันที่คนทำอาจเป็นคนเดียวกับที่พยายามจับฉันขังไว้ที่นี่ โดยไม่ให้กระทั่งสิทธิ์พิสูจน์ตัวเอง


คราวนี้เจ้าของร่างโปร่งในชุดผู้ป่วยที่จดจ่อกับอาการของคนในห้องกระจกหันมาจ้องฝ่ายตรงข้ามเต็มตา ลึกลงไปในความเรียบเยี่ยงผิวน้ำนิ่งมีระลอกคลื่นซ่อนอยู่


ถ้าเป็นอย่างนั้น ท่านก็คงไม่ได้อยู่ตรงนี้ชายหนุ่มในชุดดำว่าแล้วเว้นจังหวะนาทีหนึ่งจึงต่อ ผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อให้เราป้ายสีกันเอง แต่มาเพื่อเตือนให้ท่านจะกลับไปทำหน้าที่ของท่านในฐานะรักษาการประธานลีโกสคอร์เปเรชั่น และผมจะได้กลับไปทำหน้าที่ของตัวเอง


ไม่คิดว่านี่เป็นการตบหัวแล้วลูบหลังกันไปหน่อยเหรอ


ท่านจะคิดยังไงก็ได้ แต่พรุ่งนี้ผมจะส่งรถมารับท่านกลับ...ตอนบ่ายโมงมีประชุมกับบอร์ดบริหารของทุกบริษัทในเครือลีโกส ท่านควรเข้าร่วมและแจ้งในที่ประชุมทราบเรื่องอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับท่านประธานระหว่างการเดินทางกลับจากอเมริกา ผมร่างแถลงการณ์ให้ท่านแล้ว ส่วนเรื่องอื่นผมจะไม่ยุ่งเพราะสิทธิ์บริหารนั้นเป็นของท่าน


หึเสียงหัวเราะถูกเค้นออกมา เตรียมพร้อมเสมอเลยนะ


ท่านทราบดีผมมีหน้าที่สร้างภาพลักษณ์ บริหารและเก็บกวาดทุกเรื่องที่จะส่งผลกระทบต่อลีโกส


แล้วบอดี้การ์ดนั่นล่ะ จะทำยังไง


ทันทีที่ท่านออกจากที่นี่สิทธิ์ในตัวเขาเป็นของท่าน หากท่านยังต้องการเขา สิทธิ์ขาดในการบังคับบัญชาเขาเป็นของท่าน หากท่านไม่ต้องการให้ส่งคืนมา ผมจะจัดการมอบหมายงานเดิมให้ทำ เรื่องที่ผมจะแจ้งท่านมีเท่านี้ ผมขอตัวก่อน คนตัวใหญ่รวบรัดตัดความด้วยการบอกลาพร้อมโค้งศีรษะให้แล้วเดินออกมา


ถ้าฉันออกไปเมื่อไหร่...ฉันจะล่าคนที่ทำเรื่องนี้ ไม่ว่ามันจะเป็นใคร ต่อให้เป็นคนใกล้ชิด ฉันจะบดกระดูกมันไม่ให้เหลือกระทั่งธุลีของมันบนโลกใบนี้ น้ำเสียงแข็งกร้าวที่เปล่งในทุกคำจริงจังหาใช่คำขู่และแววตาที่ทอดมาในทุกขณะยิ่งเยือกเย็นไม่มีความปราณี


แจ็คสันหยุดเท้าเหลียวไปหาคนที่มีตำแหน่งสูงกว่าตนเองอย่างไม่สะทกสะท้านก่อนปริปากพูด


เมื่อท่านออกจากโรงพยาบาล ท่านมีสิทธิ์ขาดในฐานะรักษาการประธานลีโกส แต่ท่านอย่าลืมว่าท่านประธานให้สิทธิ์แก่ผมในการตรวจสอบการทำงานของท่าน บางเรื่องท่านมีอำนาจเหนือผม แต่บางเรื่องเราคานอำนาจกันอยู่ ท่านต้องการทำอะไรท่านทำได้ ขอแค่อย่าก้าวก่ายการทำงานของผมก็พอ


มาร์คเหยียดมุมปากหยันต่อทุกถ้อยคำที่ได้ยินขณะมองตามแผ่นหลังที่ห่างออกไปจากสายตา เสี้ยวนาทีหนึ่งแววตาไร้ความรู้สึกลุกวาบดุจเปลวไฟแล้ววูบดับก่อนที่เขาจะเดินตามหลังลูกน้องของตนกลับไปยังห้องของตัวเอง
-------------------------------------------------
คนตัวผอมคลำหาสวิตช์ไฟภายในห้องนอน วินาทีที่ไฟสว่างเผยให้เห็นห้องนอนสีเขียวมิ้นท์ที่จัดวางเครื่องเรือนสีขาวไว้อย่างลงตัว เตียงนอนไม้ที่อยู่ชิดผนังมีหมอนและผ้าห่มเป็นลายกราฟฟิคสีเขียวเข้มผสมอ่อน ภาพในกรอบไม้ที่แขวนเหนือเตียงเป็นภาพวาดของดอกไม้หลายชนิด ตู้เย็นเล็กมีน้ำกับขนมอยู่ใกล้กับโต๊ะเขียนหนังสือตรงหน้าต่างบานเฟี้ยมที่เปิดไปสู่ระเบียงด้านนอกได้มีอุปกรณ์เครื่องเขียนเสียบไว้ในกระบอกแก้ววางคู่กับปฏิทินตั้งโต๊ะโดยมีโน้ตบุ๊กวางอยู่ด้วย บนชั้นลอยเหนือโต๊ะมีกล่องยาสามัญประจำบ้านกับหนังสืออ่านเล่นขณะที่ตู้เสื้อผ้าใหญ่ในห้องก็มีเสื้อผ้าใหม่เรียงรายอยู่ ในลิ้นชักมีชุดชั้นในผู้ชายใหม่เอี่ยมเตรียมไว้ให้


มือสัมผัสเนื้อผ้าของเสื้อแขนยาวสีพาสเทลไปจนถึงเสื้อคลุมไปจนถึงเสื้อยีนส์พลางพลิกป้ายยี่ห้อเสื้อผ้าที่ยังห้อยอยู่ขึ้นมาดูราคา จำใจหยิบเสื้อผ้าในตู้ออกมาเพื่อไปอาบน้ำ เมื่อเปิดประตูเข้าไปในห้องน้ำสีทองหรูหราที่ครบครันด้วยเครื่องสุขภัณฑ์กระเบื้องอย่างดี ส่วนอาบน้ำเป็นฝักบัวแยกกับส่วนขับถ่ายและล้างหน้าออกจากกันโดยมีประตูกระจกฝ้ากั้น ผ้าเช็ดตัวและผ้าเช็ดผมพับวางบนชั้นลอยตรงอ่างล้างหน้า ขณะที่น้ำยาต่างๆที่ใช้ทำความสะอาดร่างกายไปจนถึงแปรงสีฟันและยาสีฟันที่วางเรียงถัดจากชั้นที่วางผ้าเป็นชนิดที่อ่อนโยนต่อผิวทั้งสิ้น


แบมแบมเดินออกจากห้องน้ำ เก็บเสื้อผ้าเก่าใส่ตะกร้าที่วางอยู่โดยไม่ลืมล้วงไปในกางเกงตัวเก่าหยิบเอาบางสิ่งในนั้นใส่ลงมาในกระเป๋ากางเกงใส่นอนและออกมาข้างนอก เขามองประตูไม้สีดำที่อยู่ตรงข้ามกับห้องนอนตัวเองก็พอจะเดาได้ว่าเป็นห้องใคร แต่เมื่อลองเปิดดูจึงรู้ว่าล็อกจึงเลือกปล่อยห้องนี้ไว้และเดินลงบันไดชั้นลอยออกสำรวจห้องต่างๆที่อยู่ภายในเพนท์เฮ้าส์ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนเปิดโล่งมีเพียงห้องน้ำกับห้องประตูแดงเท่านั้นที่ล็อกไว้


ในครัวบิลด์อินที่ครบด้วยอุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว มองดูกล่องอาหารที่วางอยู่บนถาด พอเปิดฝาจึงได้เห็นโจ๊กใส่หอยเป๋าฮื้อกับธัญพืช เคียงด้วยซุปไชเท้าใสและกิมจิ


ดวงตากลมกวาดมองไปโดยรอบของห้องอาหาร เพนท์เฮ้าส์นี้มีความเป็นจีนเจืออยู่ในทุกอณู แปลกที่ห้องนอนของเขาเป็นห้องเดียวที่ตกแต่งต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง สีที่ทาบนผนังเป็นสีใหม่สีเดียวกับที่เขาเคยชอบ ข้าวของทุกชิ้นที่จัดเตรียมให้กระทั่งอาหารผ่านการเลือกมาอย่างพิถีพิถัน...มันไม่ใช่การเอาใจเพื่อให้ได้มาในสิ่งที่ต้องการ แต่เป็นการแสดงความใจใส่


...การอ่านคนเป็นการอ่านบุคลิกลักษณะภายนอกและการแสดงออกทางร่างกาย แต่การจะลงลึกถึงรายละเอียดปลีกย่อยได้ต้องเป็นคนที่เคยคุ้นกันมาก่อน...


...ไม่ มันก็แค่บังเอิญ...


เด็กหนุ่มสลัดความคิดที่ทำให้ใจไม่สงบออกกก่อนจะเปิดตู้เย็นมองขวดน้ำที่เรียงอยู่ในนั้นและหยิบเข็มฉีดยาที่มีของเหลวใส ฉีดมันผ่านฝาขวดเข้าไปในปริมาณเล็กน้อยทุกขวด


...รูปถ่ายพวกนั้นยังอยู่กับตัวผู้ชายคนนั้น หากจะเอามันคืนมีโอกาสแค่ตอนนี้ หากผู้ชายคนนั้นเปลี่ยนที่เก็บเมื่อไหร่คงได้ติดอยู่ด้วยกันตรงนี้ไปอีกนาน...


แบมแบมหยิบทิชชู่ห่อเข็มฉีดยาเปล่าเก็บใส่กระเป๋าเดินผ่านโจ๊กที่วางอยู่บนโต๊ะกลางสำหรับเตรียมอาหารในครัวไปยังห้องนั่งเล่น วางแผนการเล่นละครตบตาคร่าวๆ แต่เมื่อคิดถึงจุดที่อาจต้องสัมผัสกายกันทำให้เครียดขึ้ง อาการคลื่นไส้ระคนปวดท้องรุนแรงเข้าเล่นงานแม้พยายามฝืนเดินเพื่อไปหยิบยาทั้งที่ปวดแทบขาดใจ แต่ความกว้างของเพนท์เฮ้าส์ต่างจากบ้านที่เคยอยู่ สุดท้ายร่างผอมก็หมดแรงทรุดลงไปนอนกองบนพื้นพร้อมกับโลกที่ดับมืดลงทันที

You Might Also Like

0 Comments